SMEs ยางไทยร่อแร่ขาดเงินทุนสร้างนวัตกรรม

รศ.ดร.เพลินพิศ บูชาธรรม ภาควิชาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ซึ่งทำงานวิจัยในอุตสาหกรรมยางมาต่อเนื่องกว่า 40 ปี กระทั่งได้รับรางวัลเมธีส่งเสริมนวัตกรรม จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(NIA) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ความก้าวหน้าของนักวิทยาศาสตร์ของไทยในการพัฒนาคุณภาพและเพิ่มมูลค่าของยาง รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ใช้ยางธรรมชาติเป็นวัตถุดิบนั้นมีจำนวนมาก บางงานวิจัยยังไม่เคยมีประเทศใดทำได้ แต่เสียดายที่งานวิจัยดีๆ เหล่านั้น ไม่สามารถนำความรู้และเทคโนโลยีลงสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ได้จริง เพราะติดปัญหาด้านการลงทุน การตลาด ส่งผลทำให้ไม่มีการขยายการผลิตผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมจากยางพาราภายในประเทศ จึงไม่มีความต้องการการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้นในขณะที่ผลผลิตยางพาราเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวภายในระยะเวลาสิบปีนี้ เป็นผลทำให้ราคายางพาราตกต่ำอย่างมาก

 


รศ.ดร.เพลินพิศ บูชาธรรม ภาควิชาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ซึ่งทำงานวิจัยในอุตสาหกรรมยางมาต่อเนื่องกว่า 40 ปี กระทั่งได้รับรางวัลเมธีส่งเสริมนวัตกรรม จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(NIA) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  เปิดเผยว่า ความก้าวหน้าของนักวิทยาศาสตร์ของไทยในการพัฒนาคุณภาพและเพิ่มมูลค่าของยาง รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ใช้ยางธรรมชาติเป็นวัตถุดิบนั้นมีจำนวนมาก บางงานวิจัยยังไม่เคยมีประเทศใดทำได้ แต่เสียดายที่งานวิจัยดีๆ เหล่านั้น ไม่สามารถนำความรู้และเทคโนโลยีลงสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ได้จริง เพราะติดปัญหาด้านการลงทุน การตลาด ส่งผลทำให้ไม่มีการขยายการผลิตผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมจากยางพาราภายในประเทศ จึงไม่มีความต้องการการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้นในขณะที่ผลผลิตยางพาราเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวภายในระยะเวลาสิบปีนี้ เป็นผลทำให้ราคายางพาราตกต่ำอย่างมาก

  กลุ่มอุตสาหกรรมยางขนาดเล็กของไทยน่าสงสารมาก ระยะหลังทยอยปิดตัวไปจำนวนมาก รวมถึงอุตสาหกรรมแปรรูปจากยางกลุ่มนี้เป็นผู้ประสบปัญหาจากราคายางที่ค่อนข้างผันผวนมาโดยตลอด ทำให้ยากต่อการคำนวณต้นทุนโดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก หรือ SME ของไทยที่ต้องเลิกกิจการ ในขณะที่กลุ่มธุรกิจยางที่ยังเหลืออยู่ส่วนใหญ่เป็นของต่างชาติไม่ใช่คนไทย ฉะนั้น ภาครัฐจะต้องเข้ามาสนับสนุนอย่างจริงจังแบบเต็มรูปแบบ 

แม้ที่ผ่านมาจะมีการปล่อยกู้บ้าง แต่เงื่อนไขที่มากมายที่ทำให้ธุรกิจเหล่านี้ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะทดลองสายการผลิตใหม่เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มออกสู่ตลาด ดังนั้น การทำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ยางในอุตสาหกรรมระดับ SME ของไทย จึงมีความเป็นไปได้ยากมาก ด้วยปัจจัยต่างๆ ไม่เอื้อ  ทั้งค่าใช้จ่าย การรับความเสี่ยงตลอดจนความชัดเจนของตลาด ซึ่งหน่วยงานภาครัฐจะต้องเอื้อมมือเข้ามาช่วย SME อย่างทั่วถึงและเต็มรูปแบบมากกว่านี้ 

การจะช่วยกลุ่ม SME นั้นไม่ใช่แค่ให้เงินกู้เพื่อซื้อเครื่องจักรเท่านั้นแล้วจบ ซึ่งที่ผ่านมามันได้พิสูจน์แล้วว่าแนวทางนี้ไม่ประสบความสำเร็จ แต่สิ่งที่เขาต้องการคือองค์ความรู้ซึ่งในส่วนนี้นักวิชาการด้านยางของไทยซึ่งมีอยู่จำนวนมากนั้น พร้อมที่จะนำความรู้ไปให้ โดยเฉพาะงานวิจัยที่เป็นปลายน้ำที่สามารถเพิ่มมูลค่าและโอกาสให้กับยางไทย แต่ปัญหาที่ทำให้ไปต่อไม่ได้คือการลงทุน และการหาตลาดรองรับ ซึ่งในส่วนนี้รัฐบาลน่าจะต้องเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะเมื่อตลาดต้องการ ราคายางพาราก็จะไม่ตกต่ำอย่างเช่นปัจจุบันแน่นอน รัฐบาลจึงต้องหวนกลับมาคิดให้ความสำคัญและทำเป็นนโยบายแห่งชาติอย่างเป็นรูปธรรม


 

NEWS & TRENDS