ลดภาษีฟุ่มเฟือยส่อเค้าล่ม สศค.ยันไร้ปัญหา

ลดภาษีฟุ่มเฟือยส่อเค้าล่ม สศค.ยันไร้ปัญหา

 


นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาปรับลดสินค้าฟุ่มเฟือยว่า ขึ้นกับนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก หากมีความชัดเจนว่า จะไม่ดำเนินการนโยบายปรับลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยแล้ว ส่วนของ สศค.ที่มีแผนจะนัดหารือกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องภายในสัปดาห์นี้ก็ต้องยกเลิกไป จากเดิมที่มีการศึกษาถึงผลดีผลเสียไว้แล้วว่า การปรับลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย จะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศอย่างไรบ้างก่อจะนำเสนอรัฐบาล เพราะถือเป็น 1 ในมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่จะส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการชอปปิ้งในภูมิภาค หรือ ชอปปิ้ง พาราไดส์ ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)

ประเด็นหลักที่จะพิจารณาในการปรับอัตราภาษีคือ ผลกระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศเป็นหลัก แต่ในรายการสินค้าฟุ่มเฟือย 17 รายการนั้น รายการที่จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุดคือ เครื่องหนังและเสื้อผ้าแต่ก็เป็นสินค้าที่มีผู้ประกอบการในประเทศผลิตได้และมีความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศด้วยจึงถือว่าเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมาก แต่เมื่อ นโยบายรัฐบาลชัดเจนก็ถือว่า จะไม่มีผลกระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศด้วย

สำหรับสินค้าที่จัดอยู่ในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยมี 17 รายการคือ 1. ไวน์ 2 .สุราต่างประเทศ 3. ผลไม้ 4. ดอกไม้ 5. น้ำหอมและ เครื่องสำอาง 6. กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง 7.ผ้าทอทำด้วยขนสัตว์ 8.สูท เสื้อกระโปรง กางเกง สำหรับบุรุษ สตรี เด็กชาย และเด็กหญิง และเนคไท9. รองเท้าหนังและรองเท้าผ้าใบ 10. เครื่องแก้วชนิดใช้บนโต๊ะอาหารหรือใช้ตกแต่งภายในที่ทำด้วยคริสทัล 11. เครื่องประดับที่ทำด้วยคริสทัล 12. เลนส์ 13. แว่นตา 14. กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ 15. นาฬิกาและอุปกรณ์ 16. ปากกาและอุปกรณ์ และ 17. ไฟแช็ก โดยสินค้าที่มีการนำเข้ามากที่สุดคือ น้ำหอมและเครื่องสำอาง และในช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่านำเข้าทั้งสิ้น 54,817.34 ล้านบาท

NEWS & TRENDS