นางศิริรัตน์ จิตต์เสรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า ประเทศกัมพูชา เป็นประเทศหนึ่งในกลุ่ม CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ปัจจุบันมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศที่มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะเล็งเห็นศักยภาพของแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ปัจจัยต้นทุนการผลิตต่ำ ค่าแรงถูกและมีแรงงานจำนวนมาก
นางศิริรัตน์ จิตต์เสรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า ประเทศกัมพูชา เป็นประเทศหนึ่งในกลุ่ม CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ปัจจุบันมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศที่มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะเล็งเห็นศักยภาพของแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ปัจจัยต้นทุนการผลิตต่ำ ค่าแรงถูกและมีแรงงานจำนวนมาก
โดยเฉพาะประเทศกัมพูชาให้การยอมรับสินค้าอาหารแปรรูปจากประเทศไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานของสินค้าและราคายุติธรรมทำให้กัมพูชากำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนไทย อีกทั้งสภาวะเศรษฐกิจมีอัตรา การเจริญเติบโตที่ดี ประชาชนในเมืองใหญ่อย่างพนมเปญและเสียมเรียบมีกำลังการซื้อสูงขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มอาหารแปรรูปที่มีคุณภาพกำลังเป็นที่ต้องการของชาวกัมพูชาเป็นอย่างมาก ในขณะที่ปริมาณการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวกัมพูชา อันเนื่องมาจากกัมพูชาขาดแคลนเทคโนโลยีและความรู้ความสามารถในการผลิตอาหารเพื่อบริโภค
นางศิริรัตน์ กล่าวต่อว่า กสอ. มีบทบาทในการส่งเสริมการสร้างโอกาสและผลักดันผู้ประกอบการไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผ่าน “โครงการเตรียมความพร้อมและสร้างเครือข่ายภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)”
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการไทย รวมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมอาหารระหว่างประเทศไทยกับประเทศในกลุ่มอาเซียน ก่อให้เกิดการขยายฐานการผลิตในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้กับการทำธุรกิจ นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยแล้ว ยังเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายไปสู่ผู้ประกอบการชาวกัมพูชา ก่อให้เกิดการขยายฐานการผลิตของผู้ประกอบการไทย นับเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิตของกัมพูชาได้อีกทางด้วยอย่างไรก็ตาม การสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างไทยกับประเทศในอาเซียน ยังส่งผลให้เกิดการรวมกลุ่มขยายฐานการผลิตในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมทั้งเพิ่มอำนาจให้กลุ่มประเทศอาเซียนสามารถต่อรองกับภูมิภาคอื่นๆ ได้
ทั้งนี้ กสอ. ได้วางแนวทางในการพัฒนาผู้ประกอบการกลุ่ม Cluster อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ใน 2 รูปแบบคือ 1)รูปแบบการค้า เป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการคัดสรรวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าให้เหมาะกับชาวกัมพูชาซึ่งจะส่งผลให้การทำการตลาดตรงใจชาวกัมพูชามากขึ้น
2)รูปแบบการผลิต โดยการให้คำแนะนำและสนับสนุนผู้ประกอบการในการผลิตสินค้าในประเทศไทย เพื่อส่งไปจำหน่ายที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งในการอบรมให้ความรู้ผู้ประกอบการนั้นต้องให้ผู้ประกอบการวิเคราะห์ศักยภาพของตนเองวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ของตนในการทำการตลาดในประเทศกัมพูชา จากนั้นจะทำแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตลาด ตลอดจนวางแผนการตลาดให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์และตลาดเป้าหมาย
โดย กสอ.ทำหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกและขอความร่วมมือจากกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชาในการให้ผู้ประกอบการไทยดำเนินธุรกิจในกัมพูชา รวมทั้งเจรจากับนักธุรกิจหรือตัวแทนจัดจำหน่ายของกัมพูชาซึ่งกสอ. จะเป็นตัวกลางประสานระหว่างภาครัฐและเอกชนของกัมพูชากับผู้ประกอบการไทยเพื่อการทำธุรกิจอย่างราบรื่น ทั้งนี้ สินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปที่ไทยส่งไปจำหน่ายในกัมพูชา ได้แก่ น้ำตาลทราย เครื่องดื่ม น้ำมันสำเร็จรูปนมและผลิตภัณฑ์นม และเบเกอรี่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปให้สามารถขับเคลื่อนในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นจำเป็นต้องสนับสนุนให้มีการผลิตเชื่อมโยงกันอย่างครบวงจร ซึ่งก่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ร่วมกัน ทั้งวัตถุดิบ เทคโนโลยี การผลิต การตลาด และบุคลากร อันจะนำไปสู่การยกระดับอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปในตลาดอาเซียนให้สามารถแข่งขันในตลาดสากลได้ ตลอดจนทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารของภูมิภาคอาเซียนลดการพึ่งพาจากต่างชาตินอกภูมิภาคได้และมีรากฐานการพัฒนาร่วมกันอย่างครบวงจรและยั่งยืน นางศิริรัตน์ กล่าวสรุป
สำหรับผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไปสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2202 4559 , 4575 หรือ http://www.dip.go.th