นายมนูญรัตน์ เลิศโกมลสุข กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) คาดว่าในปีนี้จะได้ตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากกำลังเจรจากับบรรษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) เพื่อขายสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเออี) ประมาณ 2 พันล้านบาท และขอคณะกรรมการธนาคารอนุมัติตัดหนี้เป็นสูญวงเงินประมาณ 1.2 พันล้านบาท รวมทั้งเร่งแก้ปัญหาหนี้เสียประมาณ 1-2 พันล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังต้องการให้หนี้เอ็นพีแอลลดลงมาอยู่ที่ 2.88 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท
นายมนูญรัตน์ เลิศโกมลสุข กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) คาดว่าในปีนี้จะได้ตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากกำลังเจรจากับบรรษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) เพื่อขายสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเออี) ประมาณ 2 พันล้านบาท และขอคณะกรรมการธนาคารอนุมัติตัดหนี้เป็นสูญวงเงินประมาณ 1.2 พันล้านบาท รวมทั้งเร่งแก้ปัญหาหนี้เสียประมาณ 1-2 พันล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังต้องการให้หนี้เอ็นพีแอลลดลงมาอยู่ที่ 2.88 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท
“ก่อนหน้านี้ธนาคารได้แก้ปัญหาหนี้เสียได้แล้วประมาณ 5.4 พันล้านบาท แต่กลับมีหนี้ตกชั้นเป็นหนี้เสียประมาณ 5 พันล้านบาท จึงทำให้ดูเหมือนว่าตัวเลขเอ็นพีแอลเท่าเดิม ส่วนสาเหตุที่ลูกหนี้ตกชั้นเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมปลายปี 2554 ที่ไม่สามารถที่จะคืนหนี้ให้กับธนาคารได้จึงตัดหนี้เป็นสูญ” นายมนูญรัตน์กล่าว
นายมนูญรัตน์กล่าวอีกว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารในช่วงที่เหลือของปีนั้น เน้นให้สินเชื่อแฟคตอริ่ง ซึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เป็นคู่สัญญาของหน่วยงานราชการ คาดว่าทั้งปีปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 1.01 แสนล้านบาท.
