ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนจะต้องปรับตัวรอบด้านเพื่อค้นหากลยุทธ์ที่แข่งขันกับตลาดที่ใหญ่ขึ้น หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวข้องกับความบันเทิง คาดว่า จะได้รับประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการค้าในภูมิภาคนี้ค่อนข้างมาก
ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนจะต้องปรับตัวรอบด้านเพื่อค้นหากลยุทธ์ที่แข่งขันกับตลาดที่ใหญ่ขึ้น หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวข้องกับความบันเทิง คาดว่า จะได้รับประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการค้าในภูมิภาคนี้ค่อนข้างมาก
ที่ผ่านมาประเทศเพื่อนบ้านดูละครไทยและให้ความสนใจสินค้าประเภทบันเทิงและแฟชั่นจากไทย ดังนั้น เพื่อให้การเปิดตลาดใหม่ในอาเซียนได้ผลมากยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้เพื่อเข้าใจวัฒนธรรมและพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าในประเทศที่ต้องการส่งออกสินค้าดังกล่าว เช่น จะส่งออกสินค้าประเภทบันเทิงไปเวียดนามผู้ผลิตควรให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของพระเอกและนางเอกที่จะต้องออกมาดูดีมากที่สุด ถ้ามีบทส่อไปทางลบประชาชนจะรับไม่ได้ นอกจากนี้แล้วต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าที่มีพฤติกรรมการบริโภคสื่อที่หลากหลาย เนื่องจากมีช่องทางใหม่ ๆ ให้เลือกมากขึ้น ดังนั้น ผู้ผลิตจึงต้องให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์คุณภาพสูงสุด
“แม้ว่าชาติต่าง ๆ ในอาเซียนยอมรับเรื่องความคิดสร้างสรรค์จากไทย แต่ไม่ควรประมาทเพราะธุรกิจนี้จะต้องแข่งขันกับธุรกิจจากทั่วโลก โดยเฉพาะพม่าที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุน ซึ่งตลาดบันเทิงยังมีโอกาสเติบโตค่อนข้างสูง แต่การบุกตลาดต้องนำเสนอแนวความคิดใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เพื่อให้คนในท้องถิ่นประทับใจ เพราะเมืองใหญ่ทั้งย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยมีกำลังซื้อสูง” ดร.กฤษติกากล่าว
ด้านธุรกิจด้านแฟชั่นและเครื่องแต่งกายของไทย ก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ดีสำหรับการขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน เชื่อว่าในอนาคตธุรกิจแฟชั่นจะนำวัฒนธรรมไทยเผยแพร่สู่อาเซียนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากประชาชนในภูมิภาคนี้ให้การยอมรับฝีมือคนไทย แม้ในอดีตการแต่งกายของคนในชาติต่างๆ จะแตกต่างกันตามวัฒนธรรมของท้องถิ่น หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะทำให้ประชาชนในภูมิภาคนี้แต่งกายคล้ายกันมากขึ้น เนื่องจากอิทธิพลด้านแฟชั่นและความบันเทิง รวมทั้งความพยายามในการเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกัน เห็นได้จากปัจจุบันเยาวชนในอาเซียนทั้งพม่า เวียดนาม ลาว และกัมพูชา เดินทางมาเรียนระดับมหาวิทยาลัยเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมต่าง ๆ ของประเทศไทย ในขณะที่คนไทยให้ความสำคัญกับการศึกษาประเทศเพื่อนบ้านน้อย อาจทำให้เกิดความเสียเปรียบเรื่องการสื่อสารภาษาท้องถิ่น หรือแม้แต่เรื่องความไม่เข้าใจวัฒนธรรม ทั้งที่ในอนาคตประชาชนจากอาเซียนจะเป็นลูกค้าของเร