นายมนูญรัตน์ เลิศโกมลสุข กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยหรือธพว. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ผู้จัดการสาขาดูแลลูกค้าที่ได้รับผลประทบจากน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากรายใดได้รับความเสียหายมากจะยืดเงินต้น หรือหยุดพักชำระดอกเบี้ยให้ลูกค้าเป็นเวลา 3 เดือน โดยการให้ความช่วยเหลือจะพิจารณาเป็นรายกรณี โดยขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทว่าจะได้รับความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ส่วนการช่วยเหลือเป็นแพกเกจช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีน้ำท่วมนั้น ต้องรอนโยบายจากรัฐบาลอีกครั้ง
นายมนูญรัตน์ เลิศโกมลสุข กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยหรือธพว. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ผู้จัดการสาขาดูแลลูกค้าที่ได้รับผลประทบจากน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากรายใดได้รับความเสียหายมากจะยืดเงินต้น หรือหยุดพักชำระดอกเบี้ยให้ลูกค้าเป็นเวลา 3 เดือน โดยการให้ความช่วยเหลือจะพิจารณาเป็นรายกรณี โดยขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทว่าจะได้รับความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ส่วนการช่วยเหลือเป็นแพกเกจช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีน้ำท่วมนั้น ต้องรอนโยบายจากรัฐบาลอีกครั้ง
สำหรับการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในช่วงที่เหลือของปีนั้น เน้นให้สินเชื่อแฟคตอริ่ง ซึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เป็นคู่สัญญาของหน่วยงานราชการทั้งองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) และองค์กรคลังสินค้า (อคส.) ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท และร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมหรือบสย. จัดทำโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อพัฒนาผลิตภาพการผลิต หรือพีไอแอล วงเงิน 20,000 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 101,000 ล้านบาท
การแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลคาดว่าในปีนี้จะได้ตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากกำลังเจรจากับบรรษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท หรือบสส. เพื่อขายสินทรัพย์รอการขายหรือเอ็นพีเออีประมาณ 2,000 ล้านบาท และขอคณะกรรมการธนาคารอนุมัติตัดหนี้เป็นสูญวงเงินประมาณ 1,200 ล้านบาท รวมทั้งเร่งแก้ปัญหาหนี้เสียประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธปท. และกระทรวงการคลังต้องการให้หนี้เอ็นพีแอลอยู่ที่ 28,850 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 32,000 ล้านบาท
“ก่อนหน้านี้ธนาคารได้แก้ปัญหาหนี้เสียได้แล้วประมาณ 5,400 ล้านบาท แต่กลับมีหนี้ตกชั้นเป็นหนี้เสียประมาณ 5,000 ล้านบาทจึงทำให้ดูเหมือนว่า ตัวเลขเอ็นพีแอลเท่าเดิม แต่ขณะนี้ได้เร่งดำเนินการแก้ปัญหาเชื่อว่าปลายปีนี้ทำได้แน่นอน ส่วนสาเหตุที่ลูกหนี้ตกชั้นเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมปลายปี 54 ที่ผ่านมาเนื่องจาก ธนาคารได้เข้าไปช่วยเหลือด้วยการยืดระยะเวลาชำระหนี้ให้กับลูกค้า แต่เมื่อถึงกำหนดระยะเวลาไม่สามารถที่จะคืนหนี้ให้กับธนาคารได้จึงตัดหนี้เป็นสูญ”