นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นชอบมาตรการเพิ่มขีดความสามารถเอสเอ็มอีไทย หลังจากมาตรการเดิมครบกำหนดไปเมื่อปี 2554 มาตรการส่งเสริมการลงทุนแก่เอสเอ็มอี และมาตรการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยภายใต้ 2 มาตรการนี้ จะต้องยื่นขอรับส่งเสริมภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นชอบมาตรการเพิ่มขีดความสามารถเอสเอ็มอีไทย หลังจากมาตรการเดิมครบกำหนดไปเมื่อปี 2554 มาตรการส่งเสริมการลงทุนแก่เอสเอ็มอี และมาตรการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยภายใต้ 2 มาตรการนี้ จะต้องยื่นขอรับส่งเสริมภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557
โดยมาตรการใหม่ ต้องการส่งเสริมเอสเอ็มอีให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน อีกทั้งได้ลดกลุ่มเอสเอ็มอีจาก 57 เหลือ 39 ธุรกิจ เนื่องจากหลายอุตสาหกรรมพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งกิจการเอสเอ็มอีไทยที่ได้รับการส่งเสริมจะได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี เต็มวงเงินการลงทุน
สำหรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการเอสเอ็มอี มีเงื่อนไขหลัก คือ ต้องมีขนาดการลงทุนขั้นต่ำ 5 แสนบาท ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน ต้องถือหุ้นโดยบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 51ของทุนจดทะเบียน และมีสินทรัพย์ถาวรสุทธิหรือขนาดลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนไม่เกิน 200 ล้านบาท
เลขาธิการบีโอไอ เพิ่มเติมว่า ภายหลังจากออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มเติม คาดว่า จะส่งเสริมให้เอสเอ็มอีขยายการลงทุนได้สูงถึง 15,000 ล้านบาทในปี 2557 ใกล้เคียงกับปี 2554 ที่มีมูลค่าการลงทุนทางตรง 16,000 ล้านบาท จากยอดการลงทุนทั้งหมด 28,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ กิจการเอสเอ็มอีทั้ง 39 ประเภทที่ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ ได้แก่ กิจการที่เพิ่มมูลค่าสินค้า กิจการที่ใช้ทักษะการผลิตและเป็นอุตสาหกรรมสนับสนุนที่สำคัญ กิจการเชิงสร้างสรรค์ และกิจการบริการและสนับสนุนการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ บอร์ดบีโอไอ ยังอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 3 โครงการ มูลค่ากว่า 9,200 ล้านบาท ให้กับกลุ่มพลังงานไบโอดีเซลเพื่อขายในประเทศ ได้แก่บริษัท ไบโอล่า ฟูเอล จำกัด กำลังการผลิต 250,000 ล้านลิตรต่อปี กลุ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อป้อนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและนิคมอุตสาหกรรมกับบริษัท ผลิตไฟฟ้านวนคร จำกัด มูลค่าส่งเสริมการลงทุน 6,150 ล้านบาท และกิจการการผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะแก่สยาม เคียวซัน เด็นโซ่ จำกัด ที่มูลค่าส่งเสริมการลงทุน 1,200 ล้านบาท
