พาณิชย์คุมเข้มผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้บริโภค

นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า แม้ว่าขณะนี้ราคาสินค้ายังอยู่ในภาวะปกติ แต่ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในศึกษารายละเอียดสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นอย่างเข้มงวด และจะมีการทบทวนรายการสินค้าที่ที่ต้องควบคุมอีกครั้ง เนื่องจากการตรวจสอบด้วยตนเองและมีรายงานเข้ามาว่า พบสินค้าบางรายการมีการอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายว่าด้วยสินค้าและบริการที่กำหนดในเรื่องของเพดานราคาแต่ยังไม่ได้กำหนดปริมาณสินค้า ทำให้ผู้ผลิตบางรายนำช่องโหว่นี้กระทำการเอาเปรียบผู้บริโภคได้

 


นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า แม้ว่าขณะนี้ราคาสินค้ายังอยู่ในภาวะปกติ แต่ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในศึกษารายละเอียดสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นอย่างเข้มงวด และจะมีการทบทวนรายการสินค้าที่ที่ต้องควบคุมอีกครั้ง เนื่องจากการตรวจสอบด้วยตนเองและมีรายงานเข้ามาว่า พบสินค้าบางรายการมีการอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายว่าด้วยสินค้าและบริการที่กำหนดในเรื่องของเพดานราคาแต่ยังไม่ได้กำหนดปริมาณสินค้า ทำให้ผู้ผลิตบางรายนำช่องโหว่นี้กระทำการเอาเปรียบผู้บริโภคได้

                  “กลุ่มผู้ผลิตบางกลุ่มขอผลิตสินค้าที่จะออกวางจำหน่าย ได้เสนอมายังกรมการค้าภายในยังไม่ขึ้นราคา เนื่องจากเกิดการแข่งขันสูง แต่ได้ลดปริมาณสินค้า โดยคงราคาเดิมไว้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคเข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ของตัวผู้บริโภคเอง ควรมีการสังเกตราคาเปรียบเทียบกับปริมาณก่อนซื้อสินค้า เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ตัวเองด้วย”

                 ทั้งนี้ยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวนั้นแม้ว่าเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมาย แต่ก็กฎหมายก็ยังไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากพฤติกรรมของการผลิต และการบริโภค มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ทางกรมการค้าภายในจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการศึกษาอย่างละเอียดหากมีผู้ผลิตมาขอปรับเปลี่ยนการผลิตสินค้าในแต่ละประเภท  หากไม่ตรงกับขออนุญาต ที่ได้ทำเรื่องมายังกรมการค้าภายใน ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และเพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ของผู้บริโภคควรช่วยกันสอดส่องรายสินค้า หากพบความผิดปกติในช่วงนี้ เช่น มีสินค้าลดปริมาณลงแต่ราคาเท่าเดิม มีการปรับเปลี่ยนขนดบรรจุ สามารถแจ้งมาได้ที่ สายด่วน 1569 เนื่องจากทางกรมการค้าภายในยังไม่อนุญาตให้สินค้าตัวใดปรับราคาขึ้นหรือลดปริมาณลง

                  “ขณะนี้ พฤติกรรมของการผลิต และการบริโภค มีการปรับเปลี่ยน เช่น สบู่ เดิมจะนิยมใช้แบบก้อน แต่ปรับเปลี่ยนมานิยมแบบสบู่น้ำ รวมถึงสินค้าประเภทอื่น ๆ ดังนั้น จึงได้สั่งการให้มี การศึกษาหากการปรับเปลี่ยนการผลิตสินค้าในแต่ละประเภท ไม่ตรงกับการขออนุญาต ที่ได้ทำเรื่องมายังกรมการค้าภายใน ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย”

             อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น กรมการค้าภายใน จะเข้าไปดูสินค้าอุปโภคและบริโภคที่อยู่ที่บัญชีสินค้าที่ต้องติดตามใกล้ชิด จำนวนกว่า 200 รายการ ว่า มีรายการสินค้าใดที่มีการปรับเปลี่ยนสินค้าที่ได้รับอนุญาต แต่ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของกรมการค้าภายใน และจะนำเสนอแผนการศึกษาเกี่ยวกับสินค้าที่มีการปรับเปลี่ยนตามสะดวกของผู้บริโภค และกลุ่มสินค้าต่าง ๆ เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. ในต้นปีหน้า ซึ่งหาก กกร. รับในหลักการจะเรียกประชุมผู้ประกอบการทั้งระบบให้รับทราบว่า ขณะนี้  การปรับเปลี่ยนสินค้ารายการใดทั้งราคาและปริมาณ จะต้องแจ้งให้กรมการค้าภายใน รับทราบและอนุมัติ ซึ่งหากรายใด ยังฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฏหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ

                นอกจากนี้ กรมฯ จะเข้าไปศึกษาต้นทุนในกลุ่มสินค้าไอทีต่าง ๆ เพราะยอมรับว่า สินค้าที่เกี่ยวข้องด้านไอที เช่น ฟิลม์กันรอย และซองโทรศัพท์ เพื่อดูต้นทุนราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพหรือไม่ โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนได้เร็วๆนี้

 

NEWS & TRENDS