กสิกรไทยออกสินเชื่อประหยัดไฟหนุน SMEs

ธนาคารกสิกรไทยแนะเอสเอ็มอีลดต้นทุนพลังงาน ออกบริการสินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย วงเงินกู้ 100% ของค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหลอดไฟ ไม่ต้องมีหลักประกัน ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้สูงสุด 80% เฉลี่ยคืนทุนภายใน 2 ปี พร้อมจับมือ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มอบเงินสนับสนุนแผนลงทุนที่ผ่านเกณฑ์

 


ธนาคารกสิกรไทยแนะเอสเอ็มอีลดต้นทุนพลังงาน  ออกบริการสินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย วงเงินกู้ 100% ของค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหลอดไฟ ไม่ต้องมีหลักประกัน ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้สูงสุด 80% เฉลี่ยคืนทุนภายใน 2 ปี พร้อมจับมือ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มอบเงินสนับสนุนแผนลงทุนที่ผ่านเกณฑ์
 
นายบุนชาน กุลวทัญญู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องมีการปรับตัวเพื่อรับการแข่งขันและต้นทุนทางธุรกิจที่เพิ่มสูง โดยเฉพาะต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้า ที่มีสัดส่วนประมาณ 10% ของต้นทุนทั้งหมดในธุรกิจ ดังนั้น การบริหารจัดการเพื่อลดการใช้ไฟฟ้า และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในธุรกิจจึงนับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันระยะยาวได้       ธนาคารกสิกรไทยจึงได้ออก บริการสินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย (K-Top Up Loan for Energy Saving (Lighting Solution)) ให้วงเงินสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการ ในการลงทุนปรับเปลี่ยนหลอดไฟที่ใช้ในธุรกิจ ให้เป็นหลอดประหยัดไฟ LED ซึ่งจะช่วยเรื่องการลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ถึง 80% พร้อมร่วมมือกับภาครัฐ ได้แก่ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ใน

การนำแผนการลงทุนเปลี่ยนหลอดไฟ LED ของผู้ประกอบการที่ผ่านหลักเกณฑ์เข้ารับเงินสนับสนุนจากภาครัฐอีกด้วย

สำหรับผู้ประกอบการที่ยื่นขอวงเงินสินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย จะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุด 100% ของเงินลงทุนทั้งหมดที่ใช้ในการเปลี่ยนหลอดไฟ ได้แก่ ค่าหลอดไฟ LED ค่าติดตั้ง และค่าดำเนินการอื่น ๆ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นวงเงินกู้ระยะยาวสูงสุด 3 ปี อนุมัติภายใน 2 วันทำการ หลังจากผู้ประกอบการสรุปและเสนอแผนการลงทุนให้กับธนาคาร

นอกจากนี้ จะได้รับบริการครบวงจรจากบริษัทจัดการด้านพลังงาน (ESCO) และบริษัทซัพพลายเออร์หลอดไฟที่มีความรู้ด้านการจัดการพลังงานแสงสว่างที่ร่วมโครงการ ได้แก่ บริการคำแนะนำในการวางแผนปรับเปลี่ยนหลอดไฟ คุณภาพแสงสว่างที่เหมาะสมกับธุรกิจของลูกค้า และผลการประหยัดไฟฟ้าที่จะได้รับจากการลงทุนเปลี่ยนหลอดไฟ โดยบริษัท ESCO และซัพพลายเออร์จะเป็นผู้รับประกันผลคุณภาพสินค้า (Warrantee Product) สำหรับตัวหลอดไฟ LED และรับประกันผลการประหยัดพลังงานไฟฟ้าจากการลงทุน (Warrantee Performance)

สำหรับผู้ประกอบการที่ประสงค์จะเข้ารับบริการสินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย เป็นธุรกิจที่มีการใช้ไฟฟ้า 12 ชั่วโมงต่อวัน เช่น อุตสาหกรรมผลิตอาหาร เครื่องดื่ม เคมี กระดาษ สิ่งทอ โรงพยาบาล โรงแรม ธุรกิจค้าปลีก เป็นต้น ติดต่อสอบถามได้ที่ผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้าผู้ประกอบการ (RM) หรือที่ K-Biz Contact Center 0 2888 8822

นายบุนชาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเลือกขอสินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย ทั้งมูลค่าการลงทุน หรือในกรณีที่แผนการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามโครงการ

ของภาครัฐ ผู้ประกอบการสามารถขอรับเงินสนับสนุนจากภาครัฐส่วนหนึ่ง และขอรับวงเงินสินเชื่อเพื่อประหยัดไฟกสิกรไทยสำหรับส่วนที่เหลือได้ ทั้งนี้ การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ที่มีประสิทธิภาพด้านการประหยัด

พลังงาน ถือเป็นมาตรการลดใช้พลังงานอย่างง่ายที่เริ่มดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และเป็นการลงทุนที่โครงการสามารถชำระหนี้ได้ด้วยตัวเอง (Self-financing project) โดยการนำเม็ดเงินที่เป็นผลจากการประหยัด

พลังงานมาชำระหนี้ จึงไม่กระทบต่อกระแสเงินสด ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อจากโครงการนี้ที่ 500 ล้านบาท
 
 

 

NEWS & TRENDS