นายวิเชษฐ์ วรกุล รองผู้จัดการทั่วไปบรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม เปิดเผยว่า การขยายการค้ำประกันสินเชื่อไปสู่ไมโครไฟแนนซ์กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการโอท็อปนั้น ขณะนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่ได้พิจารณาอนุมัติ ซึ่งในสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในขณะนี้ อาจทำให้การขยายขอบเขตการดำเนินการดังกล่าว ต้องเลื่อนออกไปเป็นปีหน้าแทน ซึ่งจริงๆ แล้ว บสย.อยากจะเริ่มดำเนินการในเดือนธันวาคมนี้ แต่หากไม่ทันน่าจะเริ่มได้ในปีหน้า เพราะถือเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการขนาดเล็กมากๆ และน่าจะช่วยให้ยอดค้ำประกันสินเชื่อปีหน้าได้ถึง 1 แสนล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้
นายวิเชษฐ์ วรกุล รองผู้จัดการทั่วไปบรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม เปิดเผยว่า การขยายการค้ำประกันสินเชื่อไปสู่ไมโครไฟแนนซ์กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการโอท็อปนั้น ขณะนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่ได้พิจารณาอนุมัติ ซึ่งในสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในขณะนี้ อาจทำให้การขยายขอบเขตการดำเนินการดังกล่าว ต้องเลื่อนออกไปเป็นปีหน้าแทน ซึ่งจริงๆ แล้ว บสย.อยากจะเริ่มดำเนินการในเดือนธันวาคมนี้ แต่หากไม่ทันน่าจะเริ่มได้ในปีหน้า เพราะถือเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการขนาดเล็กมากๆ และน่าจะช่วยให้ยอดค้ำประกันสินเชื่อปีหน้าได้ถึง 1 แสนล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้
อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ธนาคารพาณิชย์เร่งทำยอดสินเชื่อเพื่อปิดบัญชีสิ้นปีทำให้มีการส่งลูกค้าเข้าโครงการค้ำประกันสินเชื่อจำนวนมากเฉพาะเดือนเดียวสูงถึง 9 พันล้านบาท ถือเป็นสถิติที่สูงสุด ขณะที่ยอดค้ำประกันสินเชื่อในช่วง 11 เดือนของปีนี้อยู่ที่ประมาณ 8.2 หมื่นล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการได้กว่า 2 หมื่นราย
สำหรับในช่วงเดือนธันวาคมที่เหลือ คาดว่ายอดค้ำประกันสินเชื่อน่าจะชะลอตัวลง เพราะบางธนาคารได้ยอดสินเชื่อตามเป้าหมายแล้ว จึงหยุดหรือชะลอการส่งลูกค้ามาที่ บสย. โดยคาดว่าจะค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มอีกไม่เกิน 5 พันล้านบาท ส่งผลให้สิ้นปีนี้จะทำยอดค้ำประกันสินเชื่อได้รวมทั้งสิ้น 8.2 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปี 8 หมื่นล้านบาท
"ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง ยังไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของ บสย.มากนัก โดยเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ยอดค้ำประกันสินเชื่อกลับพุ่งสูงที่สุดของปีนี้ ซึ่งเดือนธันวาคมนี้น่าจะชะลอตัวลงบ้าง แต่ บสย.ยังคงดำเนินงานตามปกติ เพราะมีสาขาอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ ไม่ใช่ที่กรุงเทพฯเท่านั้น" นายวิเชษฐ์กล่าว
นายวิเชษฐ์กล่าวว่า ในปีหน้า บสย.ตั้งเป้าค้ำประกันสินเชื่อไว้ที่ระดับ 1 แสนล้านบาท สูงกว่าปีนี้ 25% หากดูจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวลง บสย.อาจต้องทำงานหนักมากขึ้น นอกจากรอลูกค้าเข้ามาหาแล้ว ต้องเดินหน้าเข้าหาลูกค้าเองด้วย โดยเท่าที่หารือกับธนาคารพาณิชย์ก็ยังคงมีการปล่อยสินเชื่อตามปกติ และมีการขยายตัวของสินเชื่อเพียงแต่อาจมีการระมัดระวังมากขึ้น และมองว่าแม้บางธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทั้งการส่งออกและท่องเที่ยว แต่น่าจะมีบางธุรกิจที่ยังพอไปได้ แต่ต้องมีความประหยัดและระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้นในภาวะที่เศรษฐกิจยังมีความเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น
