ธปท.เป็นห่วงผลกระทบการเมืองเดือด ส่งผลอารมณ์การใช้จ่ายของประชาชนลดลง ฉุดยอดขายเอสเอ็มอีหล่น ก่อภาวะขาดสภาพคล่อง จี้แบงก์พาณิชย์ดูแลลูกค้าเอสเอ็มอีใกล้ชิด
ธปท.เป็นห่วงผลกระทบการเมืองเดือด ส่งผลอารมณ์การใช้จ่ายของประชาชนลดลง ฉุดยอดขายเอสเอ็มอีหล่น ก่อภาวะขาดสภาพคล่อง จี้แบงก์พาณิชย์ดูแลลูกค้าเอสเอ็มอีใกล้ชิด
นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้จัดการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากการชุมนุมทางการเมืองที่ยืดเยื้อมากกว่า 1 เดือนนั้นมีผลกระทบต่ออารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ซึ่งจะระมัดระวังในการใช้จ่าย และใช้จ่ายน้อยลงด้วย ซึ่ง ธปท.ห่วงมากที่สุดคือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งสายป่านธุรกิจค่อนข้างสั้น เมื่อยอดขายลดลงอาจส่งผลกระทบให้ธุรกิจขาดสภาพคล่อง
ขณะเดียวกัน ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ อาจจะเข้มงวดในการอนุมัตสินเชื่อมากยิ่งขึ้น ซึ่งกระทบผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในการเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง อย่างไรก็ดี เนื่องจากธนาคารของไทยมีความแข็งแรงดีอยู่แล้ว ดังนั้นควรจะช่วยประคับประคองลูกค้ารายย่อยมากกว่า โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อเสริมสภาพคล่องในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีที่จะได้รับผลกระทบจากการชุมนุม
นอกจากนั้น ผลกระทบจากการชุมชนอาจกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2556 เมื่อรวมกับปัจจัยอื่นๆ ทั้งการส่งออกลดลง การลงทุนของภาครัฐบาลและการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้ากว่าปกติ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยจะมีการเติบโตของจีดีพีในปีนี้ประมาณ 3% และคาดว่าปัจจัยเสี่ยงต่างๆ จะมีต่อเนื่องถึงปี 2557 ซึ่งคาดว่าจีดีพีปีหน้าจะสามารถเติบโตได้เพียง 4% จากศักยภาพที่สามารถเติบโตได้ 4.5-5% โดยการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศยังคงไม่ชัดเจน แม้ว่าการส่งออกจะมีทิศทางที่ดีบ้าง แต่ปัจจัยสำคัญที่จะเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยน่าจะเป็นการลงทุนภาครัฐบาล
ขอบคุณที่มา : ASTV ผู้จัดการ
