นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือน พ.ย.2556 อยู่ที่ 90.3 ปรับตัวลดลงจากระดับ 92.8 ในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นการปรับลดต่ำสุดในรอบ 24 เดือนนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2554 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกและในประเทศที่ชะลอตัว รวมถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้เอกชนกังวลว่าจะมีความยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อให้ลดต่ำลง ดังนั้นจึงต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือน พ.ย.2556 อยู่ที่ 90.3 ปรับตัวลดลงจากระดับ 92.8 ในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นการปรับลดต่ำสุดในรอบ 24 เดือนนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2554 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกและในประเทศที่ชะลอตัว รวมถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้เอกชนกังวลว่าจะมีความยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อให้ลดต่ำลง ดังนั้นจึงต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
“เศรษฐกิจไทยอาจโตได้ 3.5% หากมีการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐจากโครงการ 3.5 แสนล้านบาท และ 2 ล้านล้านบาท แต่เมื่อเกิดปัญหาการเมืองทำให้โครงการสะดุด ทำให้เศรษฐกิจโตไม่ถึง 3% แต่ถ้าการเมืองที่ยืดเยื้อก็โตแค่ 2.5% ในขณะที่เศรษฐกิจโลกโต 5%“ นายพยุงศักดิ์กล่าว
นายพยุงศักดิ์กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับลดลงเช่นกันมาอยู่ที่ 101.4 จากเดิมเดือน ต.ค. อยู่ที่ระดับ 102.4 ซึ่งมีปัจจัยผลกระทบต่อการดำเนินกิจการคือการเมืองในประเทศเอกชนยังคงกังวลเพิ่มขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีความกังวลในระดับทรงตัว ส่วนราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน และดอกเบี้ยเงินกู้มีความกังวลลดลง
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐคือต้องมีนโยบายส่งเสริมสถาบันการเงินของรัฐในการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตของเอสเอ็มอีสู่ระดับสากล รวมถึงการรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนมากและเร่งแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง และแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
