นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่าใน 4 เดือนแรกของปี 2557 กระทรวงการคลังจะไม่สามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เลย เพราะรัฐบาลรักษาการไม่ดำเนินการออกนโยบายใหม่ได้ ดังนั้นไตรมาสแรกของปี 2557 กระทรวงการคลังยังใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเดิมไปก่อน ซึ่งคือเรื่องการเบิกจ่ายงบปี 2557 ทั้งในส่วนของงบประจำและงบลงทุนให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ส่วนการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้นจากตลาดโลกที่ฟื้นตัว สำหรับการบริโภคและการลงทุนไม่สามารถหวังให้มากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงต้นปีได้ เพราะประชาชนและนักลงทุนยังไม่มีความมั่นใจจนกว่าจะเห็นรัฐบาลใหม่
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่าใน 4 เดือนแรกของปี 2557 กระทรวงการคลังจะไม่สามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เลย เพราะรัฐบาลรักษาการไม่ดำเนินการออกนโยบายใหม่ได้ ดังนั้นไตรมาสแรกของปี 2557 กระทรวงการคลังยังใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเดิมไปก่อน ซึ่งคือเรื่องการเบิกจ่ายงบปี 2557 ทั้งในส่วนของงบประจำและงบลงทุนให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ส่วนการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้นจากตลาดโลกที่ฟื้นตัว สำหรับการบริโภคและการลงทุนไม่สามารถหวังให้มากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงต้นปีได้ เพราะประชาชนและนักลงทุนยังไม่มีความมั่นใจจนกว่าจะเห็นรัฐบาลใหม่
"สถานการณ์เศรษฐกิจปี 57 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองของไทยเป็นสำคัญ คลังต้องการให้มีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศเร็วที่สุด กรณีที่การเลือกตั้งช้าไปจะกระทบกับเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะเศรษฐกิจปี 56 ก็ขยายตัวไม่ดีได้ไม่ถึง 3% ต่อปี และเศรษฐกิจปี 57 หากการเมืองไม่นิ่งการทำให้ถึงเป้าที่ตั้งไว้ 5% จะยิ่งทำได้ลำบาก " นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศ จะต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในด้านต่างๆ ทั้งการลงทุน การบริโภค ผ่านการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐบาล และมาตรการภาษีทั้งด้านการท่องเที่ยว ทั้งการลดภาษีส่งเสริมให้มีการเข้ามาสร้างภาพยนตร์ และการลดภาษีให้มาตั้งสวนสนุกในเมืองไทย นอกจากนี้ยังมีมาตรการภาษีเพื่อการลงทุนอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ ซึ่งทาง สศค.ได้เตรียมพร้อมไว้เสนอรัฐบาลใหม่แล้ว
