นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในปี 2556 ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และขณะนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น เห็นได้จากการขยายตัวของยอดการผลิตสินค้าต่างๆ เช่น รถยนต์นั่ง พาหนะเพื่อการพาณิชย์ ซีเมนต์ผสม ฯลฯ คาดว่าทั้งปีจะขยายตัว 3.3% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3% ผลจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น ราคาพืชผลการเกษตรหลายประเภทตกต่ำ การส่งออกมีอัตราการขยายตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนด้านพลังงานสูงขึ้น สถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าหลักที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในปี 2556 ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และขณะนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น เห็นได้จากการขยายตัวของยอดการผลิตสินค้าต่างๆ เช่น รถยนต์นั่ง พาหนะเพื่อการพาณิชย์ ซีเมนต์ผสม ฯลฯ คาดว่าทั้งปีจะขยายตัว 3.3% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3% ผลจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น ราคาพืชผลการเกษตรหลายประเภทตกต่ำ การส่งออกมีอัตราการขยายตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนด้านพลังงานสูงขึ้น สถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าหลักที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ส่วนปี 2557 คาดว่าเศรษฐกิจประเทศ (จีดีพี) จะมีการขยายตัวในอัตรา 4.5% ขณะที่เอสเอ็มอีขยายตัวอยู่ที่ 4.3-4.7% เป็นผลมาจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ขยายตัวดีขึ้นเกือบทุกด้าน โดยการบริโภคภาคครัวเรือนคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8% เนื่องจากประชาชนมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นจากมาตรการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการปรับค่าแรงขั้นต่ำ ขณะที่หนี้สินภาคครัวเรือนมีแนวโน้มลดลง
ขณะที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มคงที่ในระดับต่ำ ซึ่งสนับสนุนการขยายตัวของการบริโภค การใช้จ่ายของรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้นตามงบประมาณปี 2557 ที่เพิ่มขึ้น 5% ขณะที่การลงทุนของภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัว 2.6% ผลจากการเติบโตของการลงทุนของรัฐบาลที่จะเพิ่มขึ้นในอัตรา 9.9% จากโครงการบริหารจัดการน้ำและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ
“นอกจากนี้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงจากการปรับลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (คิวอี) ของสหรัฐ ส่งผลให้การส่งออกสินค้าขยายตัว โดยเฉพาะด้านบริการที่สำคัญคือการท่องเที่ยวของประเทศ จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.2% และนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น 6% ส่วนความขัดแย้งทางการเมืองส่งผลให้เอสเอ็มอีหลายรายต้องปิดกิจการลง และกระทบกับธุรกิจด้านการค้าและบริการ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเอสเอ็มอีมีความกังวลกับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้" นายปฏิมากล่าว
