นายมนูญรัตน์ เลิศโกมลสุข กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมปิดกรุงเทพฯ (ชัตดาวน์) โดยกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอียังไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ถึงแม้จะยังไม่ได้รับผลกระทบกับการชัตดาวน์ครั้งนี้ แต่ก็ได้มีการชะลอการปล่อยสินเชื่อไปก่อนจนกว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หากสถานการณ์การชุมนุมมีเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ก็คาดว่าอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
นายมนูญรัตน์ เลิศโกมลสุข กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมปิดกรุงเทพฯ (ชัตดาวน์) โดยกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอียังไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ถึงแม้จะยังไม่ได้รับผลกระทบกับการชัตดาวน์ครั้งนี้ แต่ก็ได้มีการชะลอการปล่อยสินเชื่อไปก่อนจนกว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หากสถานการณ์การชุมนุมมีเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ก็คาดว่าอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
“ยืนยันว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของธนาคาร เป็นกลุ่มระดับล่าง แม้จะมีมวลชนจากต่างจังหวัดเข้ามาในกรุงเทพฯเพื่อร่วมปิดกรุงในครั้งนี้ แต่ก็ไม่มีกลุ่มผู้ประกอบการของธนาคารซึ่งเป็นระดับรากหญ้าอย่างแน่นอน” นายมนูญรัตน์ กล่าว
นายมนูญรัตน์กล่าวถึงผลการดำเนินงานของธนาคาร ณ สิ้นปี 2556 (ม.ค.-ธ.ค. 2556) ว่า ธนาคารได้มีการสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 9.3 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ได้ตั้งไว้ที่ 1.01 แสนล้านบาท เนื่องจากสภาพคล่องของธนาคารยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้ธนาคารได้เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมากขึ้น จึงทำให้สินเชื่อคงค้างต่ำกว่าเป้าหมายดังกล่าว โดยคาดว่าในปี 2557 จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5% หรือคิดเป็นจำนวนเกือบแสนล้านบาท
