คำเตือนระบุว่าการทำงานจากนอกสำนักงาน ด้วยคอมพิวเตอร์พีซีที่บ้านหรือสถานที่อื่นอาจตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมประเภทต่างๆและมีความเสี่ยงต่อระบบอีเมลของหน่วยงานและลูกต้าต่างประเทศ โดยเฉพาะพนักงานที่ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนหรือใช้พีซีที่ไม่มีโปรแกรมรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
คำเตือนระบุว่าการทำงานจากนอกสำนักงาน ด้วยคอมพิวเตอร์พีซีที่บ้านหรือสถานที่อื่นอาจตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมประเภทต่างๆและมีความเสี่ยงต่อระบบอีเมลของหน่วยงานและลูกต้าต่างประเทศ โดยเฉพาะพนักงานที่ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนหรือใช้พีซีที่ไม่มีโปรแกรมรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
ไมเคิลมัดด์ เลขาธิการของ OpenComputer Alliance หรือ OCAประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า พนักงานที่ต้องทำงานที่บ้านหรือสถานที่อื่นๆนอกสำนักงาน ระหว่างการประท้วงในกรุงเทพฯ อาจใช้พีซีที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งจะทำให้อาชญากรรมไซเบอร์เพิ่มสูงขึ้น
จึงขอให้ใช้แต่ซอฟต์แวร์แท้ในการดำเนินธุรกรรมการเงินทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอาชญากรรมให้น้อยที่สุด ทั้งขอให้ทุกคนที่ทำงานที่บ้านระมัดะวังและปรึกษาผู้จัดการด้านไอทีเพื่อการใช้คอมพิวเตอร์อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ สำนักงานหลายแห่งในไทยมีระบบจัดการด้านไอทีที่ปลอดภัย แต่อาจเกิดช่องโหว่จากการให้พนักงานทำงานนอกสถานที่ จึงควรกำหนดเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์ที่ปลอดภัยไว้ในแผนรับมือเหตุฉุกเฉินด้วย
ก่อนหน้านี้สำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ ของสหรัฐอเมริกาได้ออกแถลงการณ์เตือนว่าอาชญากรและแฮกเกอร์ได้ติดตั้งมัลแวร์ลงบนซอฟต์แวร์เถื่อน ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคสุ่มเสี่ยงต่ออาชญากรรมประเภทต่างๆ โดยมัลแวร์บนซอฟต์แวร์เถื่อนทำเพื่อดักบันทึกชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านส่งผลให้ผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่างๆ เช่น การต้มตุ๋นทางการเงิน
