ธปท.ชี้ชุมนุมกระทบ SMEs เมืองกรุงแต่ประคองตัวได้

ธนาคารแห่งประเทศไทยเผยผลกระทบการชุมนุมทางการเมืองส่งผลต่อเอสเอ็มอีในกรุงเทพฯ ยันหลายแห่งยังประคองตัวได้ ระบุแบงก์ช่วยยืดหนี้ และลดดอกเบี้ยให้

 


ธนาคารแห่งประเทศไทยเผยผลกระทบการชุมนุมทางการเมืองส่งผลต่อเอสเอ็มอีในกรุงเทพฯ ยันหลายแห่งยังประคองตัวได้ ระบุแบงก์ช่วยยืดหนี้ และลดดอกเบี้ยให้

นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยถึง ผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง ว่า ธปท.อยู่ระหว่างติดตามดูสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในขณะนี้ว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจไทยมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเท่าที่หารือกับธนาคารพาณิชย์หลายแห่งพบว่า ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี (SME) ในกรุงเทพมหานคร ได้รับผลกระทบมากกว่าเอสเอ็มอีที่อยู่ตามต่างจังหวัด แต่เท่าที่รับทราบข้อมูลเห็นว่ากลุ่มผู้ประกอบการหลายแห่งในขณะนี้ยังสามารถจะประคับประคองตัวเองไปได้อยู่

“เท่าที่เข้าไปสอบถามในตอนนั้น ผู้ประกอบการบอกว่ายังไหวกันอยู่ อีกทั้งแบงก์เองก็พยายามช่วยประคับประคอง และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเหล่านี้ให้พอไปได้ เพียงแต่ทุกคนก็ห่วงว่าถ้าการชุมนุมลากยาวไปเรื่อยๆ อาจจะไม่ไหวก็ได้ เพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่เอสเอ็มอีเท่านั้นที่กระทบ แม้แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่เองก็โดนผลกระทบไปด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่ารายใหญ่นั้นมีสายป่านที่ยาว จึงพอเป็นกันชนช่วยได้บ้าง”นางสาลินีกล่าวและว่า

ทั้งนี้ สำหรับภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เท่าที่สำรวจมาส่วนใหญ่เป็นธุรกิจด้านบริการ เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งขณะนี้การบริโภคของประชาชนถือว่าลดลงไปมากจากสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก

นางสาลินี กล่าวต่อไปอีกว่า ในส่วนของแนวทางการช่วยเหลือของธนาคารพาณิชย์กับกลุ่มเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองนั้น ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการยืดอายุหนี้ออกไป รวมถึงการลดดอกเบี้ยเพื่อประคับประคองธุรกิจของลูกค้าในกลุ่มนี้

“ในตอนนี้แบงก์เองก็เริ่มมีแนวทางการช่วยเหลือลูกค้าออกมาบ้าง เช่น ยืดอายุหนี้ออกไป หรือ ลดดอกเบี้ยให้บ้าง โดยเฉพาะกับรายที่กระแสเงินสดลดลง หรือมีรายได้น้อยลง แต่การช่วยเหลือก็มักปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนกันรายวัน ก็ต้องติดตามดูอย่างต่อเนื่อง”

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ธปท. ค่อนข้างสบายใจ คือ แม้สินเชื่อโดยรวมจะชะลอตังลงตามภาวะเศรษฐกิจ แต่สินเชื่อในส่วนของธุรกิจเอสเอ็มอียังคงรักษาระดับการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขล่าสุดเดือนพฤศขิกายน 2556 ที่ผ่านมา สินเชื่อรวมทั้งระบบมีการเติบโตประมาณ 10% แต่สินเชื่อที่ให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถเติบโตได้ประมาณ 14% ในขณะที่คุณภาพสินเชื่อเท่าที่ ธปท. ตรวจสอบดูก็ไม่ได้หย่อนยานแต่อย่างใด

“ตัวเลขหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล (NPL) นั้น ตัวเลขล่าสุดยอมรับว่ามีการปรับขึ้นมาบ้าง โดยเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ามาตรฐานการให้สินเชื่อหย่อนยานลง”

นึ่ง ก่อนหน้านี้ ธปท. ได้ระบุว่าตัวเลขเอ็นพีแอลเดือนพฤศจิกายนขยับขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 2.3% จากเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.2%

 

NEWS & TRENDS