บสย.ถกแบงก์พาณิชย์ยืดหนี้ SMEs กระทบการเมือง

บสย.หวั่นเอสเอ็มอีโดนพิษการเมืองกระหน่ำหนัก ถกแบงก์ช่วยยืดหนี้ 3-6 เดือนต่ออายุเอสเอ็มอี เตรียมลดเป้าค้ำประกันสินเชื่อปีนี้ไม่ถึงแสนล้าน ชี้ครึ่งเดือนมกราคมแทบไม่มีลูกค้าใหม่


บสย.หวั่นเอสเอ็มอีโดนพิษการเมืองกระหน่ำหนัก ถกแบงก์ช่วยยืดหนี้ 3-6 เดือนต่ออายุเอสเอ็มอี เตรียมลดเป้าค้ำประกันสินเชื่อปีนี้ไม่ถึงแสนล้าน ชี้ครึ่งเดือนมกราคมแทบไม่มีลูกค้าใหม่

นายวิเชษฐ วรกุล รองผู้จัดการทั่วไป สายงานธุรกิจ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังหารือกับธนาคารพาณิชย์ที่เป็นพันธมิตรในโครงการการค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีว่า สถานการณ์การเมืองและภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ เริ่มมีสัญญาณของการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้าหรือไม่ รวมถึงการขยายตัวของสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในปีนี้ เพื่อนำมา

ปรับแผนการดำเนินงานของ บสย.ใหม่ โดยยอมรับว่าเป้าหมายการค้ำประกันสินเชื่อปีนี้วงเงิน 1 แสนล้านบาทนั้น อาจไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ซึ่งภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้น่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งหากธนาคารยังคงเป้าสินเชื่อไว้ขยายตัว 10-15% บสย.ก็ยังยืนเป้าหมายเดิม

นายวิเชษฐกล่าวต่อว่า เป้าหมายค้ำประกันสินเชื่อปีนี้ 1 แสนล้านบาทนั้น บสย.ประเมินจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ที่ระดับ 4.5% ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่ำกว่านั้นและไม่มีปัจจัยทางการเมืองเข้ามากระทบ รวมทั้ง 2 โครงการใหม่ที่คาดว่าจะเริ่มได้ในปีนี้ต้องชะลอออกไปหลังรัฐบาลยุบสภา ทั้งโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการโอท็อปและวิสาหกิจชุมชนและโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการขนาดเล็ก ซึ่ง 2 โครงการตั้งวงเงินไว้ 10,000 ล้านบาท

"การค้ำประกันสินเชื่อปีนี้หายไปแล้ว 2 ส่วน 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะได้รับการผลักดันต่อเมื่อใด ทำให้เป้าหมายแสนล้านบาทค่อนข้างเหนื่อย โดยครึ่งเดือนแรกนี้แทบจะไม่มีลูกค้าใหม่เข้ามา ดังนั้นไตรมาสแรกที่ตั้งเป้าค้ำประกันสินเชื่อไว้ 19,750 ล้านบาท จำนวนเอสเอ็มอี 6,498 ราย คงได้รับผลกระทบ" นายวิเชษฐกล่าว และว่า ธนาคารพาณิชย์หลายรายเอง ก็เป็นห่วงว่าปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะมีมากขึ้น จึงอาจมีการลดเป้าหมายการขยายสินเชื่อลง

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผกระทบในเบื้องต้น จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 45% ของสินเชื่อทั้งหมด ขณะที่ต่างจังหวัดที่มีสัดส่วน 55% น่าจะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดหากสถานการณ์ยืดเยื้อออกไป โดยไตรมาสแรกปีนี้น่าจะกระทบในส่วนของเอสเอ็มอีภาคท่องเที่ยว ภาคก่อสร้าง ขณะที่เอสเอ็มอีกลุ่มส่งออกยังไปได้ดี จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเงินบาทอ่อนค่า

นายวิเชษฐกล่าวว่า หากลูกค้าธนาคารพาณิชย์เริ่มได้รับความเดือดร้อน ขายสินค้าไม่ได้ มีรายจ่ายมากกว่ารายได้และมีสัญญาณผิดนัดชำระหนี้ เชื่อว่าแบงก์พาณิชย์น่าจะให้การช่วยเหลือทันที ทั้งการผ่อนผันและการยืดเวลาการชำระหนี้ออกไป โดยสถานการณ์เช่นนี้มองว่าควรยืดหนี้ออกไป 3-6 เดือนเพื่อให้เอสเอ็มอีอยู่รอดได้ ขณะที่ บสย.เองจะผ่อนผันการยืดระยะเวลาการคิดค่าค้ำประกันสินเชื่อออกไปให้สอดคล้องกัน

ที่มา : ประชาชาติ

NEWS & TRENDS