คลังเร่งสอบทุจริตโกงภาษี 45 บริษัทข้าราชการมีเอี่ยว

นายประสิทธิ์ สืบชนะ ผู้ตรวจราชการกระทรงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีทุจริตภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้ทางกรมสรรพากรสรุปผลการสอบการทุจริตภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วนที่ 2 ที่ได้มีการส่งข้อมูลของ 45 บริษัท ที่ส่งออกคอมพิวเตอร์ที่ส่อการทุจริตในการขอคืนภาษี เนื่องจากที่ผ่านมาเห็นว่ากรมสรรพากรมีการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวไปแล้วกว่า 80-90 % ในเบื้องต้นได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีข้าราชการไปเกี่ยวของคนละกลุ่มกับที่ทางกระทรวงการคลังตรวจสอบที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบวินัยในเรื่องดังกล่าวอยู่

 


นายประสิทธิ์ สืบชนะ ผู้ตรวจราชการกระทรงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีทุจริตภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้ทางกรมสรรพากรสรุปผลการสอบการทุจริตภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วนที่ 2 ที่ได้มีการส่งข้อมูลของ 45 บริษัท ที่ส่งออกคอมพิวเตอร์ที่ส่อการทุจริตในการขอคืนภาษี เนื่องจากที่ผ่านมาเห็นว่ากรมสรรพากรมีการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวไปแล้วกว่า 80-90 %  ในเบื้องต้นได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีข้าราชการไปเกี่ยวของคนละกลุ่มกับที่ทางกระทรวงการคลังตรวจสอบที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบวินัยในเรื่องดังกล่าวอยู่

    ทั้งนี้เมื่อได้รับผลการสอบข้อเท็จจริงจากกรมสรรพากรแล้ว ทางคณะกรรมการจะมีการพิจารณาอีกครั้ง ว่ามีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนกี่คน และจะดำเนินการสอบวินัยต่อไป

         "ถึงแม้ว่าขณะนี้จะอยู่ในช่วงของรัฐบาลรักษาการแต่กระทรวงการคลังก็จะยังให้ความสำคัญในเรื่องของการปราบทุจริตการโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งทางกระทรวงการคลังก็ยังต่อดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง" นายประสิทธิ์ กล่าว

                 นายประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ในการตรวจสอบการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ไม่ถูกต้องนี้ ทางกระทรวงการคลังได้มีการดำเนินการมาตั้งแต่กลางปี 56 ซึ่งพบว่ามีบริษัทเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งหมด 65 บริษัท มีการตรวจสอบในส่วนแรกไปแล้ว 20 บริษัท เป็นการส่งออกในกลุ่มของเศษเหล็ก โดยยังทำให้รัฐเสียหายกว่า 4,000 ล้านบาท

           ทั้งนี้ที่ผ่านมาจากการตรวจสอบใน 20 บริษัท พบว่ามีข้าราชการกรมสรรพากรเกี่ยวข้อง 18 ราย ในจำนวนนี้เป็นข้าราชการระดับ 9 ถึง 4 ราย ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการสอบวินัยร้ายแรง และอีก 14 ราย อยู่ระหว่างกรมสรรพากรสอบวินัยอยู่ อย่างไรก็ตามใน 2 ส่วนดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุปผลใดๆออกมาอย่างชัดเจน

                    สำหรับการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวในส่วนที่ 2 นั้น เป็นการตรวจสอบ 45 บริษัท ซึ่งทางกระทรวงการคลังจะเร่งสรุปข้อเท็จจริง เพื่อมีการสิบวินัยกับผู้ที่กระทำความผิดต่อไป

             "เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังไม่จำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากฝ่ายนโยบาย เนื่องจากเป็นอำนาจของปลัดกระทรวงการคลังโดยตรง ที่เป็นผู้ตั้งคณะกรรมการการตรวจสอบเรื่องนี้ขึ้นมา รวมถึงการสอบวินัยร้ายแรงก็เป็นอำนาจของปลัดด้วยเช่นกัน" นายประสิทธิ์ กล่าว

 

NEWS & TRENDS