หอการค้าแนะ SMEs ต้องช่วยตัวเองมากขึ้น

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งหนังสือสอบถามไปยังสมาชิกหอการค้าฯ ทั่วประเทศ 4,000-5,000 ราย เกี่ยวกับผลกระทบจากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจและความขัดแย้งทางการเมือง เนื่องจากทราบว่าผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) หลายราย เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนสภาพคล่องและยอดขายสินค้าลดลงต่อเนื่อง ซึ่งหากรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว หอการค้าไทยจะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกมาตรการช่วยเหลือต่อไป

 



นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งหนังสือสอบถามไปยังสมาชิกหอการค้าฯ ทั่วประเทศ 4,000-5,000 ราย เกี่ยวกับผลกระทบจากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจและความขัดแย้งทางการเมือง เนื่องจากทราบว่าผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) หลายราย เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนสภาพคล่องและยอดขายสินค้าลดลงต่อเนื่อง ซึ่งหากรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว หอการค้าไทยจะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกมาตรการช่วยเหลือต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ภาคอุตสาหกรรมยังไม่มีปัญหาการปลดคนงาน และในภาคบริการ เช่น ธุรกิจร้านอาหารบางส่วนได้ปลดพนักงานบ้างแล้ว

ขณะเดียวกัน ได้แนะนำให้เอสเอ็มอีที่เป็นสมาชิก 4,000-5,000 ราย และเครือข่ายที่มีภาคธุรกิจอีก 70,000 ราย ช่วยเหลือตัวเองมากขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะการสร้างศักยภาพการแข่งขัน รวมถึงการขอความร่วมมือให้สมาชิกที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีในการทำตลาด ทั้งในและตลาดต่างประเทศที่รายใหญ่นั้นๆ มีธุรกิจอยู่ หรือช่วยแนะนำผู้ค้าในต่างประเทศ หรือแนะนำการทำธุรกิจในต่างประเทศ เป็นต้น

"ในภาวะแบบนี้ ภาคเอกชนจำเป็นต้องพึ่งพาตนเองให้มาก พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายในการพึ่งพากัน มากที่สุด โดยเฉพาะการออกไปทำธุรกิจในประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวีที่ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ซึ่งจะเป็นตลาดที่ผู้บริโภคเริ่มมีกำลังซื้อมากขึ้น และบริษัทใหญ่ๆ ของไทยจำนวนมากได้ไปตั้งกิจการในประเทศเหล่านี้แล้ว"

ทั้งนี้ หอการค้าไทย จะส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมการตลาด และการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจแก่เอสเอ็มอีอย่างเข้มข้นมากขึ้น เช่น การจับมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในการเดินหน้าผลักดันครัวไทยสู่ครัวโลก ด้วยการจัดงานแสดงสินค้าอาหาร ไทยเฟกซ์- เวิลด์ ออฟ ฟู้ด เอเชีย 2014 ในเดือนพ.ค.นี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งเป็นการแสดงอาหารระดับนานาชาติครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อตอกย้ำความพร้อมของไทย ในการเป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยของภูมิภาค ซึ่งจนถึงขณะนี้ ลูกค้าและบริษัทต่างชาติ ยังยืนยันเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก แม้จะมีปัญหาการเมืองในประเทศก็ตาม

ที่มา : ไทยรัฐ

NEWS & TRENDS