สำรวจ SMEs กระทบการเมืองคาดรายได้หดน้อยกว่าปี 56

นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยการสำรวจผลกระทบผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จากสถานการณ์การเมืองที่ยืดเยื้อมากกว่า 2 เดือน ว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 70 ระบุว่าแนวโน้มผลประกอบการจะลดลงกว่าปีที่ผ่านมา และส่วนใหญ่มีปัญหาด้านการแข่งขันการค้า

 


นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยการสำรวจผลกระทบผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จากสถานการณ์การเมืองที่ยืดเยื้อมากกว่า 2 เดือน ว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 70 ระบุว่าแนวโน้มผลประกอบการจะลดลงกว่าปีที่ผ่านมา และส่วนใหญ่มีปัญหาด้านการแข่งขันการค้า

ขณะที่พบว่าผู้ประกอบการร้อยละ 40 คาดว่ายอดขายจะลดลงอย่างมากในปีนี้ และผู้ประกอบการถึงร้อยละ 70 ระบุว่ามีความเชื่อมั่นของผลประกอบการในปี 2557 อยู่ในระดับต่ำมาก เนื่องจากปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้น การขาดแคลนแรงงานและสภาพคล่องของธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการในปริมณฑลและต่างจังหวัดจะได้รับผลกระทบมาก 

ดังนั้นผู้ประกอบการต้องการให้ปัญหาทางการเมืองยุติลงโดยเร็ว เพราะหากสถานการณ์ยืดเยื้อต่อไปอีก ไม่มั่นใจว่าเอสเอ็มอีจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด แม้ตอนนี้ภาคการผลิตจะไม่ได้รับผลกระทบมากก็ตาม แต่เอสเอ็มอี ทั้งภาคการท่องเที่ยวและบริการ ต่างก็ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม สอท.ยังเชื่อว่าเอสเอ็มอีในปี 2557 จะขยายตัวได้ร้อยละ 3-4 โดยมีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวดีขึ้น แต่หากสถานการณ์การเมืองไทยยังยืดเยื้อ อาจส่งผลให้การเติบโตของเอสเอ็มอีลดลงได้ ซึ่งทาง สอท.จะรอพิจารณาตัวเลขผลกระทบต่าง ๆ อีกครั้งในช่วงไตรมาส 2 ทั้งนี้ ในเบื้องต้น หากเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวดี จะสามารถพยุงเอสเอ็มอีให้เติบโตได้ตามคาด

ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือมากที่สุด คือ เร่งแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง รวมถึงช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง รักษาเสถียรภาพเงินบาท และการยกระดับมาตรฐานการผลิต ลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ แก้ขไกฎหมายที่เป็นอุปสรรคเช่นมาตรการด้านภาษีและแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ยังมองว่าหากมีรัฐบาลชุดใหม่ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ควรเข้ามาสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้แข่งขันได้ในอาเซียนมากขึ้น

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

 

NEWS & TRENDS