สค.ตั้งศูนย์ AEC พนมเปญให้ข้อมูลธุรกิจไทยลุยกัมพูชา

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ให้สามารถขยายตลาดเข้ามาในกัมพูชาได้สะดวก กรมจึงได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทย (ศูนย์เออีซี) ที่กรุงพนมเปญ เพื่อเป็นสถานที่ให้ข้อมูล ให้คำปรึกษาเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจลงทุนค้าขาย หรือสนใจในตลาดกัมพูชา และขณะนี้กรมได้พยายามดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลจากศูนย์ที่กัมพูชามายังศูนย์ที่ไทยด้วย เพื่อช่วยลดต้นทุนในการเดินทางไปของผู้ประกอบการที่ต้องการคำปรึกษา ข้อมูล การประสานงานต่างๆ ของกัมพูชาและอาเซียน

 


นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ให้สามารถขยายตลาดเข้ามาในกัมพูชาได้สะดวก กรมจึงได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทย (ศูนย์เออีซี) ที่กรุงพนมเปญ เพื่อเป็นสถานที่ให้ข้อมูล ให้คำปรึกษาเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจลงทุนค้าขาย หรือสนใจในตลาดกัมพูชา และขณะนี้กรมได้พยายามดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลจากศูนย์ที่กัมพูชามายังศูนย์ที่ไทยด้วย เพื่อช่วยลดต้นทุนในการเดินทางไปของผู้ประกอบการที่ต้องการคำปรึกษา ข้อมูล การประสานงานต่างๆ ของกัมพูชาและอาเซียน

“เพื่อให้ผู้ประกอบการมั่นใจในการทำธุรกิจในกัมพูชามากขึ้น กรมจึงจัดตั้งศูนย์เออีซี ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลทั้งทางการตลาดเชิงลึก กฎหมายธุรกิจ เรื่องแรงงาน สรรพากร บัญชี ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ การขนส่งสินค้า การเข้ามาทำธุรกิจ การสร้างเครือข่ายพันธมิตร การประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการขอคำปรึกษาเชิงลึกต่างๆ โดยไม่คิดค่าบริการใดๆ”นางนันทวัลย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม กรมยังเชื่อว่าการที่ผู้ประกอบการได้เดินทางไปเห็นไปศึกษาในสถานที่จริง จะเป็นการช่วยผู้ประกอบการให้เข้าใจถึงขีดความสามารถของตลาดได้มากกว่า ซึ่งกรมฯยินดีช่วยเหลือและประสานงานในทุกขั้นตอน

ด้านนางจีรนันท์ วงษ์มงคล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ กล่าวว่า การจัดงาน “Thailand Week” ที่กัมพูชาแต่ละครั้งจะมีมูลค่าการซื้อขายในงานเฉลี่ยประมาณ 800-1,000 ล้านบาท โดยจะมีผู้เข้าร่วมงานสูงถึง 150,000 คนต่อวัน ซึ่งในครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 6-9 กุมพาพันธ์ 2557 มีมูลค่าการซื้อขายในงานกว่า 800 ล้านบาท และคาดว่าจะสูงถึง 1,000 ล้านบาท เนื่องจากชาวกัมพูชานิยมสินค้าไทยอย่างมาก เพราะมีมาตรฐานสูงและมีคุณภาพที่ดี

ที่มา : แนวหน้า

 

NEWS & TRENDS