กสิกรไทยผนึก3 พันธมิตรช่วย SMEs ธุรกิจท่องเที่ยว

กสิกรไทยช่วยธุรกิจท่องเที่ยวไทยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง ให้ผ่อนชำระดอกเบี้ยอย่างเดียว (Grace Period) สูงสุด 6 เดือน พร้อมจับมือพันธมิตร สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย และ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เดินสายจัดสัมมนาให้ความรู้ 4 จังหวัดแหล่งท่องเที่ยวศักยภาพสูง และมอบส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 2 % ภายในงาน

 


 กสิกรไทยช่วยธุรกิจท่องเที่ยวไทยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง ให้ผ่อนชำระดอกเบี้ยอย่างเดียว (Grace Period) สูงสุด 6 เดือน พร้อมจับมือพันธมิตร สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย และ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เดินสายจัดสัมมนาให้ความรู้ 4 จังหวัดแหล่งท่องเที่ยวศักยภาพสูง และมอบส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 2 % ภายในงาน  

 
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองในประเทศมากที่สุดธุรกิจหนึ่ง ดังนั้นธนาคารกสิกรไทยจึงร่วมมือกับ 3 องค์กรพันธมิตร ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย และ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)     ออกโครงการสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย  โดยเน้นกลุ่มเอสเอ็มอี  5 ธุรกิจ ได้แก่ 1. ธุรกิจโรงแรมและที่พัก  2. ธุรกิจร้านอาหาร 3. ธุรกิจนำเที่ยวและสปา 4. ธุรกิจบริการรถเช่าและเรือเช่า 5. ธุรกิจขายของฝากและของที่ระลึก โดยให้การสนับสนุนทั้งด้านการเงิน และองค์ความรู้

การสนับสนุนด้านการเงิน ธนาคารกสิกรไทยมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจโรงแรมและที่พัก ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีรายได้แปรผันตามฤดูกาลท่องเที่ยว จะได้รับการสนับสนุนสินเชื่อที่ยืดหยุ่น สามารถเลือกผ่อนชำระสูงในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว และผ่อนชำระน้อยช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวได้ และกรณีต้องการลงทุนก่อสร้างใหม่เพื่อขยายธุรกิจ ธนาคารฯ จะให้เวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 12  ปี

สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจนำเที่ยวและสปา ธุรกิจบริการรถ-เรือเช่า และธุรกิจขายของฝากและของที่ระลึก มีข้อจำกัดค่อนข้างหลากหลาย เช่น ไม่มีหลักประกัน เนื่องจากสถานประกอบการเป็นที่เช่า สามารถขอได้สูงสุด 5 ล้านบาท  หรือธุรกิจที่มีการเดินบัญชีน้อย เนื่องจากเป็นธุรกรรมเงินสดนั้น สามารถขอสินเชื่อสูงสุดได้ 10 ล้านบาท และผู้ประกอบการที่หลักประกันไม่เพียงพอต้องการวงเงินเยอะ สามารถขอได้สูงสุด 3.33  เท่าของมูลค่าหลักประกัน 

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ออกมาตรการให้การช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเมือง ด้วยการผ่อนชำระดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว (Grace Period) ระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน และ มอบโปรโมชั่นพิเศษส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 2 %   สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่สมัครสินเชื่อในงานสัมมนา ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ 

         การสนับสนุนองค์ความรู้  ธนาคารกสิกรไทยและพันธมิตร จะร่วมกันจัดสัมมนา “Tourism Solutions พลิกวิถีธุรกิจท่องเที่ยว SME ไทย” เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวใน 4 จังหวัด  ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี และกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสูง โดยในงานสัมมนา  แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ  ช่วงที่ 1. ให้ความรู้เรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย โดยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  ช่วงที่ 2. แนะนำผลิตภัณฑ์การเงินที่เหมาะกับรูปแบบการทำธุรกิจ 3. ช่วงกรณีตัวอย่าง นำผู้ประกอบการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในกลุ่มโรงเเรมเเละร้านอาหาร  มาแบ่งปันประสบการณ์ นอกจากนี้ จะมีการออกบูธโดยพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้แก่ผู้ที่มาร่วมงาน

นายพัชร กล่าวตอนท้ายว่า จากการประเมินพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารกสิกรไทย พบว่า ลูกค้าเอสเอ็มอีในกรุงเทพมหานครที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุมทางการเมือง มีประมาณ 17,500 ราย โดยลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบมีประมาณ 500 ราย มียอดสินเชื่อคงค้าง 3,500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 0.72% ของพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคาร ฯ ส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจ ก่อสร้าง  อิเล็คทรอนิคส์ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์  วัสดุก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์  เป็นต้น

ธนาคารฯ ได้แนะนำผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อการรับมือกับสถานการณ์การเมืองที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ  นอกจากนี้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอี  ดังนั้นเมื่อเข้าสู่การเปิด AEC ในปี 2558 อาจต้องเผชิญการแข่งขันกับผู้ประกอบการจากประเทศอื่น ๆ ที่มีแนวโน้มจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยสูง ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อลดการแข่งขันกันเอง และเสริมสร้างธุรกิจท่องเที่ยวไทยให้แข็งแกร่งขึ้น

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยมีความเข้มแข็งและสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ ทั้งนี้ ในปี 2556 ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวมีสัดส่วนเป็น 10% ของมูลค่า GDP ประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย จึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุนธุรกิจของผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวขนาดกลางและขนาดเล็ก   ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 ที่ผ่านมา ลูกค้าในกลุ่มนี้ มีการขยายตัวด้านสินเชื่อถึง 11% มียอดสินเชื่อที่ประมาณ 15,331 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน

นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่มีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมดำเนินธุรกิจเกือบ 80% ของผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งหมด ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยผู้ประกอบการทั้งด้านแหล่งเงินทุนและปรับปรุงคุณภาพของสินค้าด้านการท่องเที่ยวรองรับการเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะร่วมกับธนาคารกสิกรไทยและพันธมิตรในการเดินสายโรดโชว์ ใน 4 พื้นที่ท่องเที่ยวหลักดังกล่าว นำร่องที่จังหวัดภูเก็ตเป็นแห่งแรก 



               

NEWS & TRENDS