นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในส่วนของผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์อย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กกว่า 50% ได้รับผลกระทบแล้ว และในภาพรวมของธุรกิจดังกล่าวก็คาดว่าจะได้รับผลกระทบจนทำให้ตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ถึงขั้นติดลบ จากที่เคยคาดการณ์ว่าในปี 2557 จะขยายตัวสูงถึง 5-8% หรือคิดเป็นมูลค่า 100,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากการฟื้นตัวของประเทศผู้นำเข้าสำคัญของไทยคือ สหรัฐอเมริกา กลุ่มสหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดนำเข้าสินค้าจากไทยรวมกันกว่า 70% รวมทั้งการได้รับอานิสงส์จากอัตราแลกเปลี่ยนเพราะ ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในส่วนของผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์อย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กกว่า 50% ได้รับผลกระทบแล้ว และในภาพรวมของธุรกิจดังกล่าวก็คาดว่าจะได้รับผลกระทบจนทำให้ตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ถึงขั้นติดลบ จากที่เคยคาดการณ์ว่าในปี 2557 จะขยายตัวสูงถึง 5-8% หรือคิดเป็นมูลค่า 100,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากการฟื้นตัวของประเทศผู้นำเข้าสำคัญของไทยคือ สหรัฐอเมริกา กลุ่มสหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดนำเข้าสินค้าจากไทยรวมกันกว่า 70% รวมทั้งการได้รับอานิสงส์จากอัตราแลกเปลี่ยนเพราะ ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง
นายจิรบูลย์กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองขึ้นทำให้อุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ไม่ได้ประโยชน์จากปัจจัยด้านบวกดังกล่าวเลย และหากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศไม่สิ้นสุดลงโดยเร็ว เอกชนก็จะได้รับผลกระทบต่อไปเพราะผู้นำเข้าจะหันไปสั่งสินค้าจากประเทศที่เป็นคู่แข่งของไทย เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง แทน ซึ่งเห็นได้จากการจัดงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่จัดขึ้นที่ผู้ซื้อจะเลือกเดินทางไปร่วมงานในประเทศคู่แข่งมากกว่าไทย
"ยอดคำสั่งซื้อถ้าหายไป 1 วันก็สูญไปเป็นพันล้านบาทแล้ว ขณะนี้รอข้อมูลจากกรมศุลกากรในส่วนของเดือนม.ค. ว่าเป็นเท่าไหร่ และเดือนก.พ. ซึ่งเป็นเดือนที่ได้รับผลกระทบจากการเมืองชัดเจน และคาดว่าในเดือนเม.ย.จะสรุปผลกระทบช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 ได้" นายจิรบูลย์กล่าว
