ศศินทร์เผยไทยเจอปัญหาแรงงานขาดแคลนไม่พร้อมสู้อาเซียน

นักวิชาการศศินทร์เผยปัญหาตลาดแรงงานไทยไม่สอดคล้องกับการแข่งขันในอาเซียน ชี้ขาดคนเก่งและคุณสมบัติที่ตรงกับงาน แนะองค์กรธุรกิจจับมือสถาบันการศึกษาผลิตบุคลากร และอบรมให้เกิดความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ย้ำฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาคนให้สอดคล้องกับเป็นภูมิภาคติดอันดับโลก..


    นักวิชาการศศินทร์เผยปัญหาตลาดแรงงานไทยไม่สอดคล้องกับการแข่งขันในอาเซียน  ชี้ขาดคนเก่งและคุณสมบัติที่ตรงกับงาน แนะองค์กรธุรกิจจับมือสถาบันการศึกษาผลิตบุคลากร  และอบรมให้เกิดความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง  ย้ำฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาคนให้สอดคล้องกับเป็นภูมิภาคติดอันดับโลกที่น่าลงทุน

     รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริยุพา  รุ่งเริงสุข หัวหน้าหลักสูตรการบริหารงานบุคคล  สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ    ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin) เปิดเผยถึงทิศทางในการบริหารงานบุคคลเพื่อรับมือกับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนว่า  ทุกประเทศควรพัฒนาคนให้มีความพร้อมในการทำงาน ทั้งในเรื่องการประสานงานให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของภาคธุรกิจและการไหลเวียนของเงินทุน เนื่องจากทั่วโลกมองว่าอาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีความน่าลงทุนในอันดับต้น ๆ ของโลก  

    ฉะนั้น สิ่งที่ต้องคิดคือจะเกิดผลดีต่อประเทศไทยในแง่มุมใดบ้าง     เนื่องจากในอาเซียนยังมีคนไม่เพียงพอต่อความต้องการของภาคธุรกิจ แม้จะมีประชากรจำนวนมากแต่คุณสมบัติไม่ตรงกับตลาดแรงงาน เห็นได้จากข้อมูลของกลุ่มที่ปรึกษาบริหารงานบุคคล  Man Power Group ที่ระบุว่า เมื่อปี 2012-2013 ที่ผ่านมากลุ่มประเทศอาเซียนมีการลงทุนทางธุรกิจค่อนข้างสูง ทำให้เกิดความต้องการทรัพยากรบุคคลสูงตามไปด้วย  เช่น มีตำแหน่งงานว่างอยู่ 100 ตำแหน่ง  แต่หาคนมาทำงานได้ไม่ถึง 34 คน เนื่องจากไม่มีคนมาสมัครงานและมีคุณสมบัติไม่ตรงกับงาน
    
    ดร.ศิริยุพากล่าวว่า ในปี 2015 จะมีการวัดความสามารถขององค์กรในการสรรหา พัฒนา และรักษาทรัพยากรบุคคล โดย Global Chaleange Index  ทั้งนี้ การจัดอันดับที่วัดกันมาทั่วโลกระบุว่า ในอาเซียนนั้น ฟิลิปปินส์อยู่อันดับที่ 44  เวียดนามที่ 53  ไทยอันดับที่ 45 และอินโดนีเซียอันดับที่ 56

    การจัดอันดับดังกล่าวบอกได้ว่าไทยมีปัญหาเรื่องบุคลากร แสดงให้เห็นว่าประเทศเราขาดคนเก่งและผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าสู่ตลาดแรงงาน   ที่ผ่านมาองค์กรต่าง ๆ ต้องใช้วิธีแย่งกันซื้อตัวคนเก่งเข้ามาทำงาน  เนื่องจากมาตรฐานการศึกษายังมีปัญหา หากไม่มีการพัฒนาเรื่องดังกล่าวประเทศไทยจะขาดบุคลากรมากขึ้น  ในขณะที่คนรุ่นใหม่ขาดความอดทนในการทำงานและทำเพื่อเงินอย่างเดียว  เมื่อได้ค่าจ้างสูงกว่าก็พร้อมจะไป ทั้งที่ยังไม่มีความพร้อมด้านคุณสมบัติ

    ดังนั้น สถาบันการศึกษาและองค์กรต่าง ๆ ควรจับมือกันเพื่อผลิตคนให้เหมาะกับงาน โดยเน้นการผลิตบุคลากรเฉพาะทางให้มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงาน นอกจากนี้ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ  ปัจจุบันแรงงานที่มีอายุ 60-65 ยังคงอยู่ในตลาดแรงงาน เพราะหาคนเก่งรุ่นใหม่ที่จะขึ้นมาแทนไม่ได้ หรือยังไม่พร้อมกับตำแหน่งนั้นๆ ในขณะที่การพัฒนาคนรุ่นใหม่ยังไม่ได้มาตรฐาน    ดังนั้นการศึกษาและพัฒนาคนรุ่นใหม่จึงมีความสำคัญมาก  


 

NEWS & TRENDS