บีโอไอจัดสัมมนา “ สร้างโอกาสนักลงทุนไทยในอาเซียน ” ให้ความรู้นักลงทุนบุกตลาดเออีซี เล็งหนุนลงทุนประเทศเป้าหมาย ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย เพราะมีอุตสาหกรรมที่นักธุรกิจไทยมีความเชี่ยวชาญและมีศักยภาพ
บีโอไอจัดสัมมนา “ สร้างโอกาสนักลงทุนไทยในอาเซียน ” ให้ความรู้นักลงทุนบุกตลาดเออีซี เล็งหนุนลงทุนประเทศเป้าหมาย ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย เพราะมีอุตสาหกรรมที่นักธุรกิจไทยมีความเชี่ยวชาญและมีศักยภาพ
นายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวในงานสัมมนา“สร้างโอกาสนักลงทุนไทยในอาเซียน” ว่าในปี 2557 นี้ บีโอไอได้กำหนดเป้าหมายที่จะเข้าไปเจาะตลาดกลุ่มประเทศอาเซียนได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีความหลากหลายในด้านปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุน อาทิ แรงงาน ตลาดและสิทธิพิเศษทางศุลกากร (GSP) โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะเป็นโอกาสแก่ธุรกิจไทยได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อาหารแปรรูป ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพและมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี
“ บีโอไอให้ความสำคัญกับกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นพิเศษ เพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่ด้วยจำนวนประชากรในกลุ่มประเทศอาเซียนที่รวมกันกว่า 600 ล้านคนซึ่งเออีซี จะเป็นช่องทางขยายการค้าและการลงทุนในกลุ่มอาเซียนได้มาก จะส่งผลให้ภาคการผลิต การค้า การลงทุน การบริการและภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่จะตามมาขยายตัว นอกจากนั้น เมื่อนักลงทุนไทยเป็นพันธมิตรทางธุรกิจหรือมีการใช้ทรัพยากรการผลิตในกลุ่มประเทศอาเซียนแล้วจะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมไทย ทั้งด้านการตลาดและความได้เปรียบด้านต้นทุนการผลิตให้กับนักลงทุนไทยต่อไป ” นายโชคดีกล่าว
ทั้งนี้บีโอไอมองว่า ในระยะยาวหากนักลงทุนไทยยังมุ่งเน้นแต่เพียงการลงทุนภายในประเทศอาจมีความเสี่ยงสูญเสียความได้เปรียบในการแข่งขัน ดังนั้นบีโอไอจึงได้กำหนดนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปลงทุนและก่อตั้งธุรกิจในต่างประเทศให้เป็นระบบอย่างจริงจัง โดยปรับเปลี่ยนทิศทางยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ จากการส่งเสริมการลงทุนในประเทศเป็นหลักไปสู่การส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ