​ส.อ.ท. ห่วงขึ้นค่าเอฟทีดันต้นทุนธุรกิจพุ่ง

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโมมัติ (เอฟที) ในอัตรา 10 สตางค์ต่อหน่วย จะส่งผลกระทบด้านต้นทุนทางพลังงานของภาคอุตสาหกรรมแน่นอน เพราะพลังงานมีความจำเป็นต่อกระบวนการผลิตและดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ยอมร..



    นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโมมัติ (เอฟที) ในอัตรา 10 สตางค์ต่อหน่วย จะส่งผลกระทบด้านต้นทุนทางพลังงานของภาคอุตสาหกรรมแน่นอน เพราะพลังงานมีความจำเป็นต่อกระบวนการผลิตและดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ยอมรับว่าไม่อยากให้พลังงานเข้ามาทำให้ต้นทุนประกอบการต้องเพิ่มขึ้นอีก โดยอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานมากคือ กลุ่มห้องเย็น แช่แข็ง ที่ต้องรับภาระเพิ่มขึ้น

    นาวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) และประธานบริษัท ไฮ-เทค แอพพาเรล จำกัด กล่าวว่า ค่าไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้นเชื่อว่าจะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการให้ปรับสูงขึ้นแน่นอน โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้ไฟฟ้าสูง อาทิ อุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งกลุ่มนี้กำลังได้ผลกระทบจากการก่อสร้างที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้นจะต้องปรับตัวและพยายามลดต้นทุนผลิตให้ได้

    วานนี้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค.2557) ในอัตรา 10 สต.ต่อหน่วย โดยปัจจัยที่มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสำหรับค่าเอฟทีงวดนี้มาจากการคาดการณ์ความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้น 2.8% จากช่วงเดียวกันของปี 2556 ประกอบกับประมาณการราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2557 เมื่อเทียบกับงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2557 พบว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น

    สำหรับแนวโน้มค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดหน้า (ก.ย.-ธ.ค.) มีทิศทางไม่ปรับขึ้นหรืออาจลดลงเพราะค่าเชื้อเพลิงและอัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มดีขึ้น

NEWS & TRENDS