สสว.ประเมินชุมนุม มี.ค. กระทบ SMEs ร้อยละ 76

สสว. ประเมินผลการชุมนุมทางการเมืองเดือน มี.ค. 57 กระทบด้านลบต่อ SMEs ร้อยละ 76 ส่วนใหญ่เป็นด้านยอดขายและจำนวนลูกค้า เผยผู้ประกอบการตลาดนัดจตุจักรร้อยละ 50 สูญเสียโอกาส ผลจากนักท่องเที่ยวลดลงกว่าครึ่ง




    สสว. ประเมินผลการชุมนุมทางการเมืองเดือน มี.ค. 57 กระทบด้านลบต่อ SMEs ร้อยละ 76 ส่วนใหญ่เป็นด้านยอดขายและจำนวนลูกค้า  เผยผู้ประกอบการตลาดนัดจตุจักรร้อยละ 50 สูญเสียโอกาส ผลจากนักท่องเที่ยวลดลงกว่าครึ่ง

    นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยผลสำรวจผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองต่อการดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ โดยล่าสุดได้ทำการสำรวจเดือนมีนาคม 2557 ในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ทั้งภาคการผลิต ภาคการค้าและภาคบริการ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมทั้งผู้ประกอบการในย่านการค้าตลาดนัดจตุจักรประมาณ 500 ราย พบว่าผู้ประกอบการ SMEs ยังคงได้รับผลกระทบในทางลบจากสถานการณ์ชุมนุมทางการเมือง แต่มีระดับความรุนแรงที่ลดลง

    ผลสำรวจในเดือนมีนาคม ผู้ประกอบการร้อยละ 76 ได้รับผลกระทบในทางลบ  แต่เมื่อพิจารณาระดับความรุนแรง พบว่าได้รับผลกระทบมากร้อยละ 42 ปานกลางร้อยละ 22 และน้อยร้อยละ 12  ซึ่งลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ ที่ได้รับผลกระทบมากร้อยละ 56 ปานกลางร้อยละ 25 และน้อยร้อยละ 4  โดยผลกระทบที่ได้รับคือ ด้านยอดขายและจำนวนลูกค้าที่ลดลงเป็นหลัก  ขณะที่ธุรกิจภาคบริการเริ่มมีความกังวลเรื่องภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในการลงทุนของประเทศ

    สำหรับผลกระทบต่อรายได้ต่อเดือนเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปกติ พบว่าในภาพรวมมีรายได้เฉลี่ยลดลงร้อยละ 42  ซึ่งดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน กุมภาพันธ์ ที่ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 50 โดยเฉพาะธุรกิจภาคการผลิตในกลุ่ม SMEs ที่มีการลงทุนน้อยกว่า 1 ล้านบาท หรือธุรกิจรายย่อย จัดเป็นกลุ่มที่สถานการณ์ดีขึ้นมาก เห็นได้จากรายได้เฉลี่ยต่อเดือนสำหรับเดือนมีนาคม ที่ลดลงร้อยละ 44 นั้น นับว่าดีขึ้นกว่าช่วงเดือน มกราคม- กุมภาพันธ์ ที่รายได้เฉลี่ยต่อเดือนลดลงร้อยละ 51 ขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่กว่ายังคงทรงตัว

    ในส่วนภาวะการค้าขายประจำเดือนมีนาคม จากการสำรวจกลุ่มผู้ประกอบการค้าตลาดนัดจตุจักร พบว่า การชุมนุมทางการเมือง ส่งผลให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ดังกล่าว สูญเสียโอกาสทางธุรกิจเฉลี่ยประมาณร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติ โดยเมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า ผลกระทบมากที่สุดคือ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาในพื้นที่ลดลงถึงร้อยละ 70 รองลงมาได้แก่ ประชาชนเที่ยวตลาดนัดสวนจตุจักรในวันเสาร์-อาทิตย์ คำสั่งซื้อจากต่างประเทศ การค้าส่งภายในประเทศ รวมทั้งการค้าปลีก ที่ลดลงร้อยละ 50 และกำลังซื้อลดลงร้อยละ 40 ตามลำดับ

    ทั้งนี้โดยภาพรวมพบว่า ผู้ประกอบการ SMEs มีการปรับตัวต่อสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดมากที่สุด เพื่อกระตุ้นยอดขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยการขายสินค้าที่ได้กำไรสูง เพิ่มชนิดของสินค้า ลงทุนด้านโฆษณาและส่งเสริมการขายเพิ่มมากขึ้น รองลงมาคือ การลดค่าใช้จ่ายและการปรับกระบวนการทำงาน


 

NEWS & TRENDS