นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าในวันที่ 19 พฤษภาคม 2557ได้นัดหารือกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือแบงก์รัฐ ถึงแนวทางการใช้กลไกปกติของแบงก์รัฐมากระตุ้นดูแลเศรษฐกิจและช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี )อาทิ ปล่อยกู้ค้ำประกันเงินกู้ เพราะช่วงรัฐบาล..
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าในวันที่ 19 พฤษภาคม 2557ได้นัดหารือกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือแบงก์รัฐ ถึงแนวทางการใช้กลไกปกติของแบงก์รัฐมากระตุ้นดูแลเศรษฐกิจและช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี )อาทิ ปล่อยกู้ค้ำประกันเงินกู้ เพราะช่วงรัฐบาลรักษาการคงไม่สามารถออกโครงการพิเศษที่รัฐต้องจัดสรรงบประมาณอุดหนุนหรือชดเชยดอกเบี้ยได้เพราะผิดกฎหมายเลือกตั้ง ทำได้เพียงการใช้กลไกปกติของแต่ละธนาคารเท่านั้นซึ่งสามารถดำเนินการได้เพราะมีเงินฝากรวมกันถึง 3.6 ล้านล้านบาท
อีกทั้งไม่สามารถใช้มาตรการภาษีดูแลเอสเอ็มอีได้ เนื่องจากจะเป็นภาระผูกพันต่อรัฐบาลชุดใหม่ จึงสั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาว่าจะมีมาตรการอะไรที่จะช่วยเหลือเอสเอ็มอี รวมถึงดูแลเศรษฐกิจช่วงนี้ได้บ้าง คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาไม่นานและจะเร่งประกาศใช้ทันที
“ก่อนหน้านี้ได้สั่งการไปยังผู้บริหารแบงก์รัฐแล้วว่าให้เร่งปล่อยสินเชื่อเพื่อดูแลเศรษฐกิจและช่วยเหลือเอสเอ็มอี เพราะสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจขณะนี้ทำให้แบงก์พาณิชย์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อเพราะกลัวหนี้เสีย ยิ่งทำให้เอสเอ็มอีลำบากดังนั้นในฐานะที่คลังดูแลแบงก์รัฐ 8 แห่ง ต้องใช้เครื่องมือที่มีอยู่ดูแลไปก่อนจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่” นายรังสรรค์ กล่าว
