สสว. ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน เปิด “OTOP Heritage” ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เป็นจุดขายสินค้า SMEs –OTOP ใจกลางกรุง ที่รวบรวมสินค้าระดับพรีเมี่ยมกว่า 1,000 ชิ้น จากทั่วประเทศ มุ่งกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูงทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ หวังจะสร้างรายได้กว่าหนึ่..
สสว. ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน เปิด “OTOP Heritage” ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เป็นจุดขายสินค้า SMEs –OTOP ใจกลางกรุง ที่รวบรวมสินค้าระดับพรีเมี่ยมกว่า 1,000 ชิ้น จากทั่วประเทศ มุ่งกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูงทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ หวังจะสร้างรายได้กว่าหนึ่งพันล้านบาทภายใน 3 ปี
นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการ สสว. เมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมา หนึ่งในนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการให้เห็นผลโดยเร็วเพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือ SMEs คือการจัดหาช่องทางการตลาดให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ที่มีศักยภาพ ได้รับการพัฒนาภายใต้โครงการต่างๆ ของ สสว. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริม SMEs รวมทั้งผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุวิกฤติต่างๆ โดยได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดหาช่องทางจัดจำหน่ายและขยายโอกาสทางการตลาดโดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ในย่านใจกลางเมืองและย่านธุรกิจที่ดีที่สุดของ กทม. ภายใต้ชื่อ “OTOP Heritage” ณ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ถนนเพลินจิต กทม. ซึ่งเริ่มขายอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา
“OTOP Heritage นับเป็นผลงานนำร่องของความสำเร็จในการบูรณาการความร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการจัดหาช่องทางการตลาดที่เป็นจุดขายถาวร ให้กับสินค้าของผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP โดยคัดเลือกสินค้าคุณภาพระดับ Premium กว่า 30,000 ชิ้น จากผู้ประกอบการกว่า 1,000 รายทั่วประเทศ มาจำหน่ายในพื้นที่ซึ่งตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง เพื่อผลักดันเข้าสู่ตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถขยายโอกาสทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้สินค้าของผู้ประกอบการที่ไม่ได้รับการคัดเลือกในครั้งนี้ สสว. มีโครงการที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการเหล่านั้นในการที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และยกระดับมาตรฐานเพื่อให้มีความสามารถในการที่จะเข้าสู่ตลาดที่มีกำลังซื้อสูงต่อไป” ผอ.สสว. กล่าว
สินค้าที่นำมาจำหน่ายใน OTOP Heritage จะคัดเลือกจากผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ระดับ 4-5 ดาว ที่เคยได้รับการพัฒนาจากโครงการต่างๆ ของ สสว. จำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 ราย จากทั่วประเทศ คัดเลือกเหลือ 40 ราย โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบให้มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่น ผสมผสานวัฒนธรรมและภูมิปัญญามาสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมีเอกลักษณ์ และมีคุณภาพมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ จำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 ชิ้น ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภท ของใช้ ของตกแต่งบ้าน เครื่องประดับ และสินค้าที่แสดงถึงมรดกทางวัฒนธรรมต่างๆ
“คาดว่าในการดำเนินงานดังกล่าว จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ได้รับการสนับสนุนช่องทางการจำหน่ายสินค้าไม่น้อยกว่า 500 ราย โดยสามารถสร้างยอดขายไม่น้อยกว่าหนึ่งพันล้านบาทภายใน 3 ปี และผลจากความสำเร็จที่เกิดขึ้น ในปี 2557 นี้ สสว. มีแผนจะเปิดจุดจำหน่ายสินค้าถาวร ให้กับผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ในอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ” ผอ.สสว. กล่าว