หอการค้าระนองเผยยอดค้าชายแดนระนอง-เกาะสอง 4 เดือนแรกพุ่งหมื่นล้าน คาดทั้งปีเฉียด 3 หมื่นล้าน แนะผู้ประกอบการไทยโอกาสดีบุกตลาดเมียนมาร์
หอการค้าระนองเผยยอดค้าชายแดนระนอง-เกาะสอง 4 เดือนแรกพุ่งหมื่นล้าน คาดทั้งปีเฉียด 3 หมื่นล้าน แนะผู้ประกอบการไทยโอกาสดีบุกตลาดเมียนมาร์
นางนฤมล ขรภูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง เปิดเผยถึงแนวโน้มของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาร์ ด้านจังหวัดระนอง-เกาะสอง ในช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.) ปี 2557ว่า การค้าชายแดนไทย-เมียนมาร์มีทิศทางที่ดี ถึงขั้นดีมาก การค้า ส่งออกยังมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกมากเป็นผลจากการเปิดประเทศของเมียนมาร์ การขยายตัวทางเศรษฐกิจในเมียนมาร์ และการพัฒนาเศรษฐกิจในเมียนมาร์ โดยในช่วง 4 เดือนแรกในปี 2557 พบว่าการค้าชายแดนไทย-เมียนมาร์ ทั้งการค้า ส่งออก ขยายตัวกว่า 40% เทียบจากช่วงเดียวกันในปี 2556 ที่ผ่านมา
สำหรับมูลค่าการค้าขายระหว่างไทย-เมียนมาร์ เฉพาะด่านชายแดนด้าน จ.ระนอง-เกาะสองช่วง 4 เดือนแรกในปี 2557 ยอดการค้าส่งออก และนำเข้ารวม 11,000 ล้านบาท ถือเป็นปีแรกในรอบกว่า 20 ปีที่ยอดการค้านำเข้า ส่งออก เกิน 10,000 ล้านบาท และคาดว่าถึงสิ้นปียอดการค้านำเข้า ส่งออกไทย-เมียนมาร์ เฉพาะด่านชายแดนระนอง-เกาะสอง จะไม่ต่ำกว่า 28,000 -30,000 ล้านบาท
ทั้งนี้เป็นเพราะความต้องการบริโภคสินค้าที่มีเพิ่มมากขึ้นในฝั่งประเทศพม่าจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของพม่า,โครงการก่อสร้าง การลงทุนต่างๆที่เพิ่มขึ้น รวมถึงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของเมียนมาร์และผลจากการที่เมียนมาร์เปิดประเทศเพื่อเตรียมตัวรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน จะส่งผลให้การค้าชายแดนไทย-เมียนมาร์มีอัตราการขยายตัวสูงมากในปี 2557 และแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในระดับสูงมากในช่วง 5-10 ปีนี้ ซึ่งถือเป็นช่วงจังหวะและโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทย ที่จะต้องเตรียมพร้อมรับการขยายตัวของตลาดเมียนมาร์ที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด
สำหรับกลุ่มสินค้าที่มียอดการส่งออกไปยังเมียนมาร์มากได้แก่สินค้าอุปโภค-บริโภค,ยา,ผลิตภัณฑ์พลาสติก รวมถึงสินค้าวัสดุก่อสร้าง ส่วนบางด่านหรือบางเขตพื้นที่ทราบว่ายอดการค้ามีปัญหาอันเป็นผลจากปัญหาแนวชายแดน นั้นตนมองว่าเป็นเพียงช่วงสั้นๆ แต่หากมองโดยภาพรวมถึงสถานการณ์การค้าไทย-เมียนมาร์ ไม่เฉพาะแต่ด้านจังหวัดระนอง-เกาะสอง ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ดีมาก"
โดยสินค้าที่ไทยยังต้องนำเข้าจากเมียนมาร์ประกอบด้วยสัตว์น้ำ,ถ่านไม้,สินแร่,ปลาป่น,เปลือกหอย,เศษเหล็ก,หวาย ไม้ไผ่,ใบจาก ส่วนสินค้าที่สำคัญของไทยได้แก่น้ำมันเชื้อเพลิง,น้ำมันพืช,เครื่องดื่มต่างๆ,ผลิตภัณฑ์จากเหล็ก,ผลิตภัณฑ์จากกระดาษ,น้ำมันหล่อลื่น,เวชภัณฑ์ยา,สีและผลิตภัณฑ์สี,ผงชูรส,ผลิตภัณฑ์แก้ว,เหล้า เบียร์ ไวน์, ปูนซิเมนต์,รองเท้า,รถจักรยานยนต์,ผลิตภัณฑ์เคมี,หมากแห้ง,ขนม,ผลิตภัณฑ์ผ้า,น้ำตาลทราย,นมสด,นมข้น,แบตเตอรี่,อาหารกระป๋อง
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com
เครดิตภาพประกอบ phophtaw.blogspot.com
