หอการค้าชี้ใช้กฎอัยการศึกเกิน 4 เดือนกระทบเศรษกิจแน่

หอการค้าเตรียมหารือภาคเอกชน 3 สถาบัน ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจหลังใช้กฎอัยการศึก มองระยะสั้นเป็นผลดี แต่ถ้ายืดเยื้อกระทบเศรษฐกิจ เหตุต่างชาติขาดความเชื่อมั่น


หอการค้าเตรียมหารือภาคเอกชน 3 สถาบัน ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจหลังใช้กฎอัยการศึก มองระยะสั้นเป็นผลดี แต่ถ้ายืดเยื้อกระทบเศรษฐกิจ เหตุต่างชาติขาดความเชื่อมั่น

    นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการหอการค้าไทยเพื่อประเมินสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของไทยภายหลังการประกาศใช้กฎอัยการศึกว่า ในเร็วๆ นี้ จะหารือร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย รวมถึงหารือร่วมกับ 7 องค์กรภาคเอกชน เพื่อประเมินสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจภายหลังการใช้กฎอัยการศึก และหาแนวทางการแก้ปัญหา แต่คงยังไม่นำเสนอรัฐบาล เป็นเพียงแนวทางการแก้ปัญหาของภาคเอกชนเท่านั้น

    พร้อมระบุว่า หากยังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึกภายใน 3-4 เดือนก็อาจจะเกิดผลกระทบเศรษฐกิจในระยะยาวได้ เพราะจะทำให้ต่างชาติ ทั้งนักท่องเที่ยว นักลงทุน นักธุรกิจต่างๆ ขาดเชื่อมั่นในประเทศไทย ที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาการเมืองได้

    ด้านนายนานดอร์ วอน เดอร์ ลูเฮ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาการเมืองของไทยที่ยาวนานถึง 6 เดือนมาแล้ว ทำให้ประเทศไทยสูญเสียความเชื่อมั่น ซึ่งการประกาศใช้กฎอัยการศึก จะส่งผลด้านดีมากกว่าการปฏิวัติ เพราะเป็นการทำให้ประเทศสงบเรียบร้อย หยุดยั้งความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ เชื่อว่า หลังจากนี้ ไทยจะหาทางออกที่ดีได้

    นายเซตซึโอะ อิอุจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กล่าวว่า นักธุรกิจต่างชาติในไทยที่คุ้นเคยกับความขัดแย้งทางการเมือง คงไม่หวาดวิตก หรือหวั่นเกรงเหตุการณ์ในประเทศไทย หรือการประกาศใช้กฎอัยการศึก แต่ก็หวังให้ไทยหาทางออกทางการเมืองโดยเร็ว และด้วยสันติวิธี อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจญี่ปุ่น ยังคงมั่นใจที่จะทำธุรกิจในไทยต่อไป เพราะไทยมีศักยภาพในหลายๆ ด้าน

NEWS & TRENDS