7 องค์กรเอกชน เตรียมเดินหน้าประชุมกรอบปฏิรูปเศรษฐกิจ 7 ด้าน ในวันที่ 27 พ.ค. 2557เสนอ คสช.พิจารณา ระบุภาคส่งออกปี 2557 โตเต็มที่ไม่เกิน 3%วอนเร่งดึงความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศกลับคืนโดยเร็วพร้อมเดินหน้ามาตรการแรกเปิดมหกรรมสินค้าราคาถูกจากโรงงานกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
7 องค์กรเอกชน เตรียมเดินหน้าประชุมกรอบปฏิรูปเศรษฐกิจ 7 ด้าน ในวันที่ 27 พ.ค. 2557เสนอ คสช.พิจารณา ระบุภาคส่งออกปี 2557 โตเต็มที่ไม่เกิน 3%วอนเร่งดึงความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศกลับคืนโดยเร็วพร้อมเดินหน้ามาตรการแรกเปิดมหกรรมสินค้าราคาถูกจากโรงงานกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 พ.ค.2557 ทาง 7 องค์กรภาคเอกชน ประกอบด้วย ส.อ.ท.สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทยสภาธุรกิจท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยจะประชุมร่วมกันเพื่อหาพิจารณากรอบการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศทั้งระยะสั้นและระยะยาวก่อนเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พิจารณาต่อไป
สำหรับกรอบการปฏิรูปเศรษฐกิจ 7 ด้าน ได้แก่ ด้านการลงทุน, ด้านการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการค้า,ด้านการศึกษา,ด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันธุรกิจ,ด้านธรรมภิบาลและการแก้ไขคอร์รัปชัน,ด้านนวัตกรรมและด้านสังคม
สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะสั้นที่ ส.อ.ท.ต้องการให้ คสช.เร่งแก้ไข ได้แก่การพิจารณาให้อนุกรรมการกลั่นกรองโครงการลงทุน สำนักงานส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)มีอำนาจพิจารณาอนุมัติโครงการลงทุนที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักซึ่งค้างอยู่หลายโครงการหลังจากเกิดการยุบสภาสมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี รวมทั้งต้องการให้คสช.สนับสนุนงบประมาณด้านนวัตกรรมเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ควรสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนต่างประเทศให้กลับมาโดยไวซึ่งส.อ.ท.เตรียมหารือกับสภาหอการค้าต่างประเทศเพื่อยืนยันว่าภาคอุตสาหกรรมไทยพร้อมที่จะจัดส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์)ได้ตามปกติซึ่งจะทำให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นในการสั่งซื้อสินค้าไทยต่อไปได้
