สรรพากรเดินหน้าปฏิรูปภาษีใหม่ เล็งยกเครื่องภาษีเอกชนเพิ่มความโปร่งใส จ่อถก คสช.เสนอแผนเร่งด่วน 4 ระยะ มั่นใจช่วยดันจัดเก็บรายได้ปีนี้ฉลุยตามเป้า 1.89 ล้านล้านบาท
สรรพากรเดินหน้าปฏิรูปภาษีใหม่ เล็งยกเครื่องภาษีเอกชนเพิ่มความโปร่งใส จ่อถก คสช.เสนอแผนเร่งด่วน 4 ระยะ มั่นใจช่วยดันจัดเก็บรายได้ปีนี้ฉลุยตามเป้า 1.89 ล้านล้านบาท
นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า การปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่ของกรมสรรพากร จะเป็นการปฏิรูปใหม่ทั้งระบบ จากที่ผ่านมามีการปฏิรูประบบราชการกับการเมืองไปแล้ว โดยหลังจากนี้จะต้องเน้นปฏิรูปภาคเอกชน ซึ่งโครงสร้างภาษีใหม่จะเป็นการป้องกันปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อให้เกิดความโปร่งใสระหว่างการติดต่องานของภาคเอกชนกับภาครัฐมากขึ้น ซึ่งล่าสุดได้สั่งการให้สรรพากรพื้นที่เข้มงวดในเรื่องการตรวจสอบใบกำกับภาษีปลอมมากขึ้น หากพบว่ามีความผิดพลาด เจ้าหน้าที่ในพื้นก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะใส่ใจกับเรื่องดังกล่าวมากขึ้น
ทั้งนี้ ในวันที่ 10 มิ.ย.2557 กรมภาษีทั้ง 3 แห่ง จะมีการหารือเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างภาษีในระยะเร่งด่วน ร่วมกับ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยในส่วนของกรมจะมีการเสนอรวม 4 เรื่องเร่งด่วน คือ 1.ขยายเวลาลดอัตราจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 7% ออกไปอีก 1 ปี 2.ขยายระยะเวลาการลดอัตราจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 20% 3.ขยายระยะเวลาการลดอัตราจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และ 4.รายงานผลการลงนามความร่วมมือร่วมกับสหรัฐอเมริกาเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายให้รายงานธุรกรรมทางการเงินบุคคลสัญชาติสหรัฐที่อยู่นอกประเทศ ซึ่งมีผลประโยชน์ทางภาษี (FATCA)
“ในการปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่ ส่วนที่เป็นการขยายระยะเวลาการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 20% ออกไปอีกนั้น จะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจได้ ทั้งการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ เพราะเมื่อพิจารณาอัตราภาษีดังกล่าวในภาคการผลิตถือว่าต่ำที่สุดในภูมิภาค ส่วนบริษัทในประเทศ ก็จะเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น และเชื่อว่าจะลดจำนวนการจัดทำบัญชีของนิติบุคคล ให้เหลือเพียง 1 บัญชีต่อนิติบุคคล จากปัจจุบันที่กระจายหลายบัญชี ทำให้การตรวจสอบการเสียภาษีง่ายขึ้น และส่งผลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจ ที่เป็นเรียลจีดีพี มากขึ้น” นายสุทธิชัยกล่าว
นายสุทธิชัยกล่าวอีกว่า ในส่วนของผลการหารือ FATCA ล่าสุดเจ้าหน้าที่สรรพากรได้หารือรอบสุดท้าย และได้ข้อสรุปในเบื้องต้นแล้วเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ซึ่งหลังจากนี้อยู่ระหว่างการเสนอ คสช. ทั้งนี้ จากข้อตกลงจะส่งผลให้บริษัทที่ทำธุรกรรมกับสหรัฐ จะไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 30% รวมทั้งบริษัทที่ทำธุรกรรมกับสหรัฐ และประเทศอื่นที่ผ่านสหรัฐ จะมีการรายงานข้อมูลการทำธุรกรรมให้กรมสรรพากรโดยอัตโนมัติ ซึ่งปัจจุบันมี 20 ประเทศที่เข้าร่วมข้อตกลงดังกล่าว \
สำหรับการจัดเก็บรายได้ในปี 2558 ของกรมตั้งเป้าหมายการจัดเก็บไว้ที่ 1.9 ล้านล้านบาท บนพื้นฐานการจัดเก็บรายได้จริงในปี 2557 ส่วนการจัดเก็บรายได้ในปี 2557 จะได้ตามเป้าหมายที่ 1.89 ล้านล้านบาท คาดว่าจะได้ตามเป้าหมายบนพื้นฐานที่ว่ามาตรการต่ออายุภาษีเร่งด่วนของกรมได้รับความเห็นชอบจาก คสช. สำหรับการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในช่วง 8 เดือนแรก ปีงบประมาณ 2557 (ต.ค.56-พ.ค.57) อยู่ที่ 1.06 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายถึง 8.7 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 7.57%.
ที่มา : www.thaipost.net
