เอกชนหนุนคสช.ตั้งศูนย์เตรียมความพร้อมสู่อาเซียน พร้อมแนะเร่งพิจารณาการใช้ประโยชน์จากกรอบข้อตกลงทางการค้าให้ได้ประโยชน์สูงสุด
เอกชนหนุนคสช.ตั้งศูนย์เตรียมความพร้อมสู่อาเซียน พร้อมแนะเร่งพิจารณาการใช้ประโยชน์จากกรอบข้อตกลงทางการค้าให้ได้ประโยชน์สูงสุด
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนเห็นด้วยที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกประกาศตั้งศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน เพราะเป็นเรื่องที่หอการค้าไทยเคยนำเสนอมานานแล้ว และเชื่อว่าหลังจากนี้ น่าจะช่วยทำให้การผลักดันหรือการดำเนินนโยบายด้านอาเซียนของไทยเดินหน้าได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะการผลักดันการใช้ประโยชน์ตามข้อตกลงการค้า (เอฟทีเอ) กับประเทศต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ สิ่งที่มองว่า ศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนที่คสช.ตั้งขึ้นมา ต้องทำเร่งด่วนมีด้วยกัน 3 เรื่องคือ
1.ต้องทบทวนกรอบข้อตกลงการค้าทั้งหมด โดยไม่ควรดูแค่เรื่องของการใช้สิทธิประโยชน์จากการลดภาษีเท่านั้น เพราะยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ ด้วย
2.การใช้ประโยชน์จากข้อกำหนดแหล่งกำเนิดสินค้า ที่ผู้ประกอบการไทยต้องศึกษาให้ลึกซึ้ง เนื่องจากสินค้าบางรายการสามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งกำเนิดสินค้าได้สูงถึง 40% แต่ผู้ประกอบการไทยก็ไม่ได้ประโยชน์จากส่วนนี้ จึงอยากให้มีการศึกษาสิทธิประโยชน์จากถิ่นกำเนินสินค้า หากทำได้จะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้
3.เรื่องมาตรฐานอยากให้มีการศึกษาการออกและการใช้มาตรฐานของประเทศคู่ค้าที่มีการพัฒนาแล้ว เช่น ประเทศญี่ปุ่นเพื่อนำมาปรับปรุงมาตรฐานสินค้าของไทยให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ น่าจะใช้ศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนทำการศึกษาและเตรียมการศึกษากรอบการค้าเสรีอื่นๆ ที่อยู่นอกกรอบอาเซียน เช่น กรอบการค้าไทย-อียู เพราะการดำเนินการที่ผ่านมายังไม่คืบหน้ามากนัก จึงน่าจะมีการเตรียมการให้พร้อม เพราะเมื่อสามารถเปิดการเจรจาได้ก็จะทำให้เดินหน้าไปได้เร็ว โดยเฉพาะเรื่องของการของแก้กฎหมายที่ไทยยังล่าช้าอยู่มาก
ตอนนี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมุ่งเน้นการทำการค้าที่ดูแค่เรื่องการใช้สิทธิประโยชน์จากภาษีเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายหลักของการเปิดเสรีการค้าที่ต้องการให้ครอบคลุมถึงเรื่องการใช้ประโยชน์ในเรื่องของการใช้วัตถุดิบในประเทศ การลดต้นทุน และการใช้ประโยชน์จากบุคลากร ซึ่งรัฐบาลยังไม่มีการผลักดันเรื่องนี้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนควรจัดทำแผนระยะยาวลงลึกไปในรายสินค้า ดูว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้เปรียบ ซึ่งทางหอการค้าเองก็จะมีการนำแนวทางที่จัดทำไว้เดิมมาทบทวน เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการที่ คสช.ตั้งขึ้นต่อไป
ที่มา : www.posttoday.com
