เก็บเงินประกันผู้จัดงานท่องเที่ยวจ่ายคนโดนตุ๋นแพ็กเกจทัวร์

กรมการท่องเที่ยวจัดระเบียบผู้จัดงานขายแพ็กเกจทัวร์ เรียกเก็บเงินค้ำประกันไว้จ่ายให้ผู้บริโภคที่ถูกบ.ทัวร์หลอกเงิน ชี้เพื่อให้ผู้จัดงานตรวจสอบบริษัทที่มาออกบูธเข้มงวดมากขึ้น และกำชับท่องเที่ยวจว.ต่างๆ ควบคุมใกล้ชิดด้วย




    กรมการท่องเที่ยวจัดระเบียบผู้จัดงานขายแพ็กเกจทัวร์ เรียกเก็บเงินค้ำประกันไว้จ่ายให้ผู้บริโภคที่ถูกบ.ทัวร์หลอกเงิน ชี้เพื่อให้ผู้จัดงานตรวจสอบบริษัทที่มาออกบูธเข้มงวดมากขึ้น และกำชับท่องเที่ยวจว.ต่างๆ ควบคุมใกล้ชิดด้วย

    นายอานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยวเปิดเผยถึงกรณีการร้องเรียนของนักท่องเที่ยวที่ประสบปัญหาถูกบริษัททัวร์หลอกลวงว่า จากนี้บริษัทเอกชนหรือหน่วยงานภาครัฐที่เป็นผู้จัดงานรวมบริษัทท่องเที่ยวต่างๆ จะต้องจ่ายเงินประกันในวงเงินตั้งแต่หลักล้านขึ้นไปให้กับกรมเพื่อใช้เป็นหลักค้ำประกัน หากเกิดกรณีที่มีการหลอกลวงเกิดขึ้น

    นายอานุภาพกล่าวอีกว่า กรมจะนำเงินประกันไปชดใช้ค่าเสียหายให้นักท่องเที่ยวได้ ขณะเดียวกันผู้จัดงานยังต้องส่ง รายชื่อของบริษัททัวร์ที่เข้าร่วมทุกบริษัท เพื่อให้มีข้อมูลป้องกันบริษัททัวร์เถื่อนที่มาจัดงานโดยไม่ได้รับการอนุญาต โดยที่ผ่านมากรมการท่องเที่ยวทำงานได้ไม่เต็มที่มากนัก จับไม่ได้ไล่ไม่ทันสักที เนื่องจากปัจจุบันอำนาจของกรมทำได้เพียงการไปร่วมจัดบูธในงาน เพื่อคอยอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูลเท่านั้น

    "บริษัททัวร์บางครั้งก็โกงกันแบบดื้อๆ จดทะเบียนเป็นบริษัทถูกต้องแต่เมื่อเงินขาดสภาพคล่องก็นำเงินลูกค้าไปหมุนแล้วหนีไปไม่รับผิดชอบ สุดท้ายกรมก็เปรียบเสมือนกระโถนที่ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง เงินประกันนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันให้ผู้จัดงานต้องระมัดระวังการนำบริษัททัวร์เข้ามามากขึ้น โดยการเก็บเงินตั้งเป้าเก็บเป็นระยะยาวไม่มีการคืนเงิน" นายอานุภาพ กล่าว

    อธิบดีกรมการท่องเที่ยวกล่าวอีกว่า จะเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีอำนาจเต็มอยู่ในขณะนี้ แก้ไขหรือปรับเปลี่ยนข้อกฎหมายและพระราชบัญญัติต่างๆ เพื่อให้กรมมีอำนาจการทำงานบางอย่างมากขึ้น อาทิ การตรวจสอบประวัติของบริษัททัวร์ที่จดทะเบียน ที่ขณะนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงจะขอให้ยกเลิกการจดทะเบียนประเภทบุคคลธรรมดาเหลือเพียงประเภทนิติบุคคล เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือและสามารถเพิ่มวงเงินการจดทะเบียนได้ในอนาคต

    "ตอนนี้กรมจะต้องตรวจสอบบริษัททัวร์ทั้งภายในงานและเมื่อมีการจดทะเบียนเปิดบริษัทใหม่ให้มีความรัดกุมมากขึ้น โดยอาจต้องขอความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่ถือหุ้นร่วมอย่างเคร่งครัดและเจาะลึกว่าอดีตแต่ละรายเคยมีประวัติอย่างไร สุ่มเสี่ยงจะเกิดปัญหาทางการเงินตามมาหรือไม่ เพราะสุดท้ายจะกระทบต่อลูกค้าที่ได้ใช้บริการในอนาคต" นายอานุภาพกล่าว

    ส่วนการจัดงานตามหัวเมืองใหญ่ๆ นั้น นายอานุภาพกล่าวว่า สั่งให้นายทะเบียนของกรมที่ประจำอยู่ที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาประจำจังหวัดตรวจสอบข้อมูลของบริษัททัวร์และผู้จัดงานตามภูมิภาคด้วย เนื่องจากในอนาคตเมื่อการท่องเที่ยวกำลังเป็นรายได้หลักของประเทศ จะมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเปิดบริษัททัวร์รวมถึงออกงานมหกรรมขายแพ็กเกจตามหัวเมืองใหญ่ๆ เพิ่มมากขึ้น อาจเป็นช่องทางให้บริษัทเถื่อนแฝงตัวเข้ามา สร้างความเดือดร้อนให้ผู้บริโภคหรือนักท่องเที่ยว

ที่มา : ข่าวสด

NEWS & TRENDS