คนไทยหนี้ครัวเรือนพุ่งเกิน 2 แสนสูงสุดในรอบ 9 ปี

ผลการสำรวจสถานภาพหนี้ภาคครัวเรือนทั่วประเทศ ปี 2557 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,200 ตัวอย่างทั่วประเทศ สำรวจระหว่างวันที่ 14-20 ก.ค.2557 ว่า พบว่า ส่วนใหญ่ 74.8% มีหนี้สิน



    นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจสถานภาพหนี้ภาคครัวเรือนทั่วประเทศ ปี 2557 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,200 ตัวอย่างทั่วประเทศ  สำรวจระหว่างวันที่ 14-20 ก.ค.2557 ว่า  พบว่า ส่วนใหญ่ 74.8% มีหนี้สิน โดย 36.7% เป็นหนี้ตั้งแต่ปี 2555-2556 และเป็นหนี้ใหม่ในปี 2557 จำนวน 18.5%

    เฉลี่ยหนี้สินต่อครัวเรือนอยู่ที่ 219,158 บาท เพิ่มขึ้น 16.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่หนี้สินต่อครัวเรือนเฉลี่ยอยู่ที่ 188,774 บาท สูงสุดในรอบ 9 ปี และในจำนวนนี้เป็นหนี้ในระบบ 51% และหนี้นอกระบบ 49% โดยมีการผ่อนชำระเดือนละ 13,358 บาท

    "หนี้ครัวเรือนถือว่าแย่ที่สุดตั้งแต่มีการสำรวจมา โดยมีถึง 83% ที่บอกว่ามีปัญหาในการชำระหนี้ และมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น เนื่องจากคนเข้าถึงแหล่งเงินยาก จากการที่แบงก์เข้มงวดการปล่อยกู้ ทำให้ต้องหันไปกู้หนี้นอกระบบมาใช้หนี้ ขณะที่คนที่มีบัตรเครดิต ก็จะรูดจนเต็มวงเงิน ส่วนชาวนาที่ได้เงินค่าจำนำข้าวไป 9 หมื่นล้านบาท ก็นำไปใช้หนี้ และเหลือใช้บางส่วน ทำให้กำลังซื้อฟื้นตัวช้า"นายธนวรรธน์กล่าว

    ทั้งนี้ ศูนย์ฯ ได้ทำการสำรวจเพื่อต้องการดูว่าสถานการณ์เศรษฐกิจเป็นอย่างไร โดยพบว่า สาเหตุที่เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ช้า เพราะภาคครัวเรือนมีหนี้ในระดับสูง โดยหนี้ที่เกิดขึ้นมาจากผลกระทบจากโครงการรถคันแรก ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อถดถอยลงไป
 
    นอกจากนี้ ยังได้ทำการสำรวจพฤติกรรมและผลกระทบจากมหกรรมฟุตบอลโลก โดยก่อนบอลโลก ผลสำรวจพบว่า 63% คนระบุว่า ไม่เล่นพนันเลย แต่หลังบอลโลก พบว่าที่ไม่เล่นพนันเลยมีถึง 70% ส่วนเม็ดเงินที่จะสะพัดก่อนบอลโลกจะมีถึง 43,530 ล้านบาท แต่หลังบอลโลกมีแค่ 30,501 ล้านบาท หรือลดลงไป 1.3 หมื่นล้านบาท จากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เอาจริงกับการปราบการพนัน ทำให้พบว่า 99% ระบุว่าไม่มีหนี้เพิ่มขึ้นหลังบอลโลก มีแค่ 1% เท่านั้นที่บอกว่าหนี้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่หนี้เดิมที่มีอยู่

ที่มา : www.thanonline.com

NEWS & TRENDS