ผลสำรวจภาวะธุรกิจ มิ.ย.อยู่ที่ 43.0 ส่วนอีก 3 เดือนข้างหน้ามีแนวโน้มดีขึ้นอยู่ที่ 61.4 หลังการเมืองคลี่คลาย
ผลสำรวจภาวะธุรกิจ มิ.ย.อยู่ที่ 43.0 ส่วนอีก 3 เดือนข้างหน้ามีแนวโน้มดีขึ้นอยู่ที่ 61.4 หลังการเมืองคลี่คลาย
นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวว่า จากการสำรวจภาวะธุรกิจในช่วงเดือนมิถุนายน 2557 จำนวน 1,790 ราย ดัชนีภาวะธุรกิจมีค่า 43.0 สูงกว่าไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งมีค่า 38.0 ดัชนีดังกล่าว แม้จะมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ยังต่ำกว่าค่า 50 เนื่องจากความกังวลกับสถานการณ์ทางการเมือง ต้นทุนการประกอบธุรกิจที่สูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจโลก และค่าครองชีพที่สูงขึ้น
ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจอีก 3 เดือนข้างหน้ามีค่า 61.4 ซึ่งดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่า 49.2 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดการณ์เศรษฐกิจไตรมาสหน้ามีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายจากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจการบริหารประเทศ มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ การคืนเงินโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศปรับตัวดีขึ้น
สำหรับผลการสำรวจภาวะธุรกิจรายสาขา ผู้ประกอบการเกือบทุกสาขาเห็นว่าภาวะธุรกิจมีทิศทางดีขึ้น ยกเว้นสาขาเกษตรกรรม เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน ฝนทิ้งช่วง ปัญหาภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตลดลง วัตถุดิบราคาสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ปัญหาโรคระบาดในกุ้ง ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการเลี้ยง และการขยายบ่อเลี้ยงกุ้ง รวมทั้งประสบภาวะการแข่งขันสูง ขณะที่สาขาบริการยังทรงตัว ผลจากนักท่องเที่ยวลดลงจากความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจมีความคาดหวังว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้าเศรษฐกิจจะดีขึ้น หลังจาก คสช. เข้ามาบริหารประเทศ และเริ่มมีการปฏิรูปประเทศทุกด้านให้ดีขึ้น รวมถึงมีมาตรการเร่งด่วนในการคืนเงินโครงการรับจำนำข้าวที่ค้างจ่ายให้แก่ชาวนาจะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของเกษตรกรเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการมีข้อเสนอแนะให้ควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนให้มีเสถียรภาพ ดูแลค่าครองชีพและค่าสาธารณูปโภคไม่ให้สูงจนเกินไป เร่งให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ลดต้นทุนการผลิต รวมทั้งหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ