​พาณิชย์เชื่อ "มหกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชน" สร้างรายได้ให้ SMEs

พาณิชย์มั่นใจงาน มหกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชน เงินสะพัด 200 ล้านสามารถสร้างรายได้ให้ SMEs พร้อมต่อยอดทางการค้า และขยายช่องทางทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เป็นสากลมากขึ้น



    พาณิชย์มั่นใจงาน มหกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชน สามารถสร้างรายได้ให้ SMEs พร้อมต่อยอดทางการค้า และขยายช่องทางทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เป็นสากลมากขึ้น

    น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน "มหกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชน คืนความสุขสู่ประชาชน" (Community Product Festival 2014) โดยระบุว่า การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่กระทรวงพาณิชย์วางแผนจัดงานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยงานมหกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชน คืนความสุขสู่ประชาชนจะจัดขึ้นจำนวน 3 ครั้ง ตลอดเดือน ก.ค.-ต.ค.57 โดยเริ่มต้นงานจากส่วนกลางที่อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นที่แรกเริ่มวันที่ 30 ก.ค. - 4 ส.ค.57 และจะเดินสายจัดงานในภูมิภาค อีก 2 ครั้ง ช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.ที่ จ.ชลบุรีและ จ.ตรัง มั่นใจว่าการจัดงานแต่ละครั้งจะมีเงินสะพัดประมาณ 200 ล้านบาท
         
     สำหรับงานมหกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชน คืนความสุขสู่ประชาชน กระทรวงพาณิชย์ได้รวบรวมผลิตภัณฑ์ชุมชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศกว่า 1,000 รายการ ได้แก่ สินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ สินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้าขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ สินค้าฮาลาล สินค้าจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ สินค้าแฟรนไชส์ และสินค้าชุมชนจากประเทศในแถบอาเซียนและเอเชีย   
          
    นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างกับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ผู้ส่งออก ห้างค้าส่ง-ค้าปลีกสมัยใหม่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเป็นการขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน และยกระดับสินค้าให้เข้าสู่ช่องทางการตลาดในระดับสากล กิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจการซื้อขายแบบออนไลน์ คลินิกให้คำปรึกษาด้าน E-Commerce และการสัมมนาให้ความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการค้า การจดทะเบียนธุรกิจ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
          
    พร้อมชมนิทรรศการส่งเสริมการตลาดสินค้าตามโครงการพระราชดำริ/พระราชเสาวนีย์ โดยนำสินค้าหัตถกรรมจากทั่วทุกภูมิภาคมาจัดแสดง มีการสาธิตกระบวนการผลิตสินค้า สาธิตการปรุงอาหารจากจังหวัดชายแดนใต้การแสดงศิลปวัฒนธรรมจากภาคใต้ วันละ 2 รอบ และชิมอาหารฟรี เช่น ข้าวยำจากปัตตานี, โรตี ขนมบุหงาบุดะ และชาชักจากสตูล, หมี่เบตง กล้วยหินฉาบทอดจากยะลา, ข้าวหมกไก่ ไก่ทอด เครื่องแกงส้มจากสงขลา เป็นต้น
          
    ปลัดกระทรวงพาณิชย์  กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าการจัดงานครั้งนี้จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้กับผู้ผลิต, ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชน และธุรกิจ SMEs และการต่อยอดทางการค้าโดยพัฒนาและขยายช่องทางการตลาดทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล สนับสนุนการบริโภคสินค้าจากภูมิปัญญาของไทย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศ เหนือสิ่งอื่นใดยังเป็นการคืนความสุข คืนรอยยิ้ม และเรียกความเชื่อมั่นคืนกลับสู่ประชาชนคนไทย

NEWS & TRENDS