เครดิตบูโรเตรียมพิจารณาออกประกาศฉบับใหม่ ถอนชื่อลูกหนี้รายย่อยผิดนัดชำระเกิน 8 ปี และมูลหนี้ไม่เกิน 10,000 บาท แก้ปัญหาลูกหนี้ออกไปกู้นอกระบบ
เครดิตบูโรเตรียมพิจารณาออกประกาศฉบับใหม่ ถอนชื่อลูกหนี้รายย่อยผิดนัดชำระเกิน 8 ปี และมูลหนี้ไม่เกิน 10,000 บาท แก้ปัญหาลูกหนี้ออกไปกู้นอกระบบ
รายงานข่าวจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร แจ้งว่า คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต (กคค.) กำลังพิจารณาการออกประกาศฉบับใหม่เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลของเครดิตบูโร ซึ่งมีเนื้อหาสำคัญคือ จะถอนชื่อลูกหนี้รายย่อยที่ผิดนัดชำระเกิน 8 ปีและมีมูลหนี้ไม่เกิน 10,000 บาท ออกจากฐานข้อมูลของเครดิตบูโร เพราะเห็นว่าที่ผ่านมาสถาบันการเงินมักจะไม่ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีกับลูกหนี้ที่มีสถานะผิดนัดชำระที่มีมูลหนี้ค้างชำระไม่ถึง 10,000 บาทเนื่องจากไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี แต่สถาบันการเงินยังคงแจ้งข้อมูลสถานะเครดิตของลูกหนี้ต่อเครดิตบูโรอยู่ โดยคาดว่าประกาศฉบับนี้จะสามารถประกาศใช้ได้ในเดือนกันยายนนี้
ข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบพบว่าเงินที่ยังชำระอยู่ในจำนวนไม่มากนี้ ทั้งสถาบันการเงินและลูกหนี้เองไม่มีใครติดตามหนี้กันเลย แต่ยังมีการแจ้งข้อมูลต่อเครดิตบูโร ส่งผลให้ลูกหนี้ดังกล่าวมีสถานะค้างชำระและไม่สามารถกลับเข้ามาใช้บริการสินเชื่อในระบบได้ ต้องหันไปหาสินเชื่อนอกระบบแทน กลายเป็นปัญหาทางสังคมตามมา ซึ่งภาครัฐได้กำหนดเป็นนโยบายที่จะหาทางแก้ไขปัญหาสินเชื่อนอกระบบให้หมดไป
แหล่งข่าวจากเครดิตบูโรเปิดเผยว่า เจตนาของการออกประกาศฉบับดังกล่าว ซึ่งประธาน กคค.คือนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องการแก้ปัญหาสินเชื่อนอกระบบในทางหนึ่งด้วย จึงเปิดทางให้ประชาชนที่เคยมีปัญหาข้อมูลค้างในเครดิตบูโรมานานได้มีโอกาสกลับมาใช้บริการสินเชื่อในระบบได้อีกครั้ง ทั้งนี้ ประเมินว่าจะมีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ดังกล่าวประมาณ 6 แสนราย จากจำนวนลูกหนี้ที่อยู่ในฐานข้อมูลเครดิตบูโรกว่า 27 ล้านราย
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่เครดิตบูโรอธิบายว่า ประกาศดังกล่าวคือการถอดถอนรายชื่อลูกหนี้ที่เข้าเกณฑ์ตามประกาศออกจากฐานข้อมูลของเครดิตบูโรเท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าหนี้สินต่างๆ ที่ลูกหนี้ยังค้างชำระอยู่กับสถาบันการเงินจะหมดไปด้วย ลูกหนี้ยังคงมีภาระต้องใช้คืนหนี้แก่สถาบันการเงินต่อไป เพียงแต่จะไม่ได้แสดงสถานะ หรือแสดงรายการข้อมูลหนี้ในเครดิตบูโร ดังนั้น ต้องขึ้นกับสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าของหนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับลูกหนี้ จะตัดเป็นหนี้สูญหรือขายหนี้ออกให้บริษัทรับจ้างติดตามทวงหนี้ดำเนินการต่อ หรือยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อดำเนินคดี หรือจะเจรจาตกลงกับลูกหนี้ ถือเป็นเรื่องระหว่างสถาบันการเงินเจ้าหนี้กับลูกหนี้เอง
ที่มา : นสพ.มติชน
