พาณิชย์เผยยอดธุรกิจเกิดใหม่เดือนก.ค. 5,592 ราย ปริมาณสูงสุดรอบปีนี้ แต่ยังติดลบ 13% เหตุคุมเข้มค้าสลาก
พาณิชย์เผยยอดธุรกิจเกิดใหม่เดือนก.ค. 5,592 ราย ปริมาณสูงสุดรอบปีนี้ แต่ยังติดลบ 13% เหตุคุมเข้มค้าสลาก
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตัวเลขการจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่เดือนก.ค. 2557 พบว่ามีผู้ประกอบการมาขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศจำนวน 5,592 ราย ลดลง 13% เทียบกับก.ค. 2556 แต่เพิ่มขึ้น 8% เทียบกับมิ.ย. 2557 ซึ่งการจดทะเบียนในเดือนก.ค.ถือว่ามีตัวเลขจัดตั้งสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา โดยมีทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ก.ค. 2557 ทั้งสิ้น 1.7 หมื่นล้านบาท ลดลง 44% เทียบกับก.ค. 2556 และลดลง 3% เทียบกับมิ.ย. 2557
ทั้งนี้ ส่งผลให้ยอดการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลในภาพรวม 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) 2557 มีจำนวน 3.5 หมื่นราย ลดลง 18% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับสาเหตุที่ทำให้การจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ลดลง 13% ยังคงเป็นผลจากมาตรการเข้มงวดในการจดทะเบียนธุรกิจสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยเดือนก.ค.ปีนี้ มีธุรกิจค้าสลากมาจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ 27 ราย ในขณะที่เดือนก.ค.ปีที่ผ่านมา มีค้าสลากมาจดทะเบียน 272 ราย หรือลดลงไปเกินครึ่ง ประกอบกับการจดทะเบียนธุรกิจวิทยุโทรทัศน์จัดตั้งใหม่เดือนก.ค.ปีนี้มีเพียง 17 ราย จากเดือน ก.ค.ปีที่ผ่านมาที่มีการจดทะเบียน 614 ราย เนื่องจากกสทช.ได้ขยายระยะเวลาการแจ้งความประสงค์ประกอบธุรกิจจากเดิม 24 ก.ค. 2556 เป็น 18 ก.ย. 2556 จึงทำให้การจะทะเบียนในปีนี้ลดลง
“เชื่อว่าแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งครึ่งปีหลังจะขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะหากดูตัวเลขเศรษฐกิจทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เดือนก.ย. การลงทุนในโครงการภาครัฐ ถือเป็นสัญญาณดี จะทำให้การจดทะเบียนจัดตั้งปีนี้จะมีปริมาณจัดตั้งถึง 6-6.5 หมื่นราย แม้ตัวเลขจะต่ำกว่าปีที่แล้วที่มีการจดจัดตั้งเกือบ 7 หมื่นราย แต่ก็เป็นผลจากความเข้มงวดในการคุมค้าสลากจึงทำให้ปริมาณลดลงไปบ้าง”
ขณะที่ การจดทะเบียนเลิกกิจการเดือนก.ค. 2557 มีจำนวน 1,477 ราย เพิ่มขึ้น 6% เทียบกับก.ค. 2556 และเพิ่มขึ้น 15% เทียบกับมิ.ย. 2557 โดยมีทุนเลิกกิจการ 5,441 ล้านบาท ลดลง34% เทียบกับก.ค. 2556 และลดลง 7% เทียบกับมิ.ย. 2557 ส่งผลให้การจดทะเบียนเลิกกิจการช่วง 7 เดือน มีจำนวน 7,327 ราย เพิ่มขึ้น 8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุของการเลิกกิจการในเดือนนี้ ส่วนใหญ่มาจากการไม่ประกอบธุรกิจ สัดส่วน 40% ประสบภาวะขาดทุน 20% หุ้นส่วนขัดแย้ง สัดส่วน 10% เป็นต้น
ที่มา : www.posttoday.com