อธิบดีกรมสรรพากรค้านข้อเสนอ กกร. ยกเลิกเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย ชี้ข้อเสนอลดเหลืออัตราเดียวมีสิทธิ์ โยน ครม.ใหม่ตัดสินใจ ฟาก "เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่"ชี้เก็บอัตราเดียวไม่เกิน 2% รับได้
อธิบดีกรมสรรพากรค้านข้อเสนอ กกร. ยกเลิกเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย ชี้ข้อเสนอลดเหลืออัตราเดียวมีสิทธิ์ โยน ครม.ใหม่ตัดสินใจ ฟาก "เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่"ชี้เก็บอัตราเดียวไม่เกิน 2% รับได้
ตามที่ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มีข้อเสนอให้คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) พิจารณาเห็นชอบการลดภาระการจัดเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย ซึ่งปัจจุบันจัดเก็บหลายอัตรา โดยเสนอให้ยกเลิกการจัดเก็บ หรือลดการจัดเก็บให้เหลืออัตราเดียว เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากปกติต้องเสียภาษีนิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอยู่แล้ว
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า หากยกเลิกการจัดเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายไปเลยนั้นจะส่งผลเสียทำให้กรมไม่มีหลักฐานสำหรับการคำนวณภาษีเงินได้ และอาจส่งผลให้ไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้เลยในที่สุด จึงไม่เห็นสมควรที่จะยกเลิกไปเลย
ส่วนข้อเสนอให้ลดอัตราจัดเก็บภาษี หัก ณ ที่จ่าย หรือให้จัดเก็บอัตราเดียวจากปัจจุบันที่เก็บหลายอัตรานั้น สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม เนื่องจากธุรกิจแต่ละประเภทมีผลกำไรในการทำธุรกิจแตกต่างกัน หากเป็นรกิจที่มีกำไรน้อย ก็ไม่จำเป็นต้องเรียกเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายมาก ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจรับเหมา กับธุรกิจขนส่ง ก็มีผลกำไรแตกต่างกัน ทำให้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
"เรื่องนี้ต้องดูหลาย ๆ ปัจจัย โดยต้องมองอย่างเป็นกลาง ซึ่งการตัดสินใจคงต้องรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้ามาพิจารณา" นายประสงค์กล่าว
แหล่ง ข่าวจากกรมสรรพากรกล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าว หากจะให้กรมสรรพากรเก็บตามข้อเสนอก็สามารถดำเนินการได้ แต่กรมอาจจะต้องขอเก็บทุกธุรกรรมที่มีการซื้อขาย จากปัจจุบันที่จะเก็บจากกรณีรับทำของอย่างเดียว
ทั้งนี้ การเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายของกรมสรรพากรมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระผู้เสียภาษีเงินได้ที่จะ ไม่ต้องเสียภาษีในคราวเดียวเป็นเงินจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังเพื่อให้รัฐบาลมีรายได้เข้าคลังอย่างสม่ำเสมอ และเพื่อลดการเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ลดภาระในการตรวจสอบ หรือติดตามจัดเก็บภาษีย้อนหลัง
โดยอัตราการจัดเก็บปัจจุบัน ได้แก่ กรณีค่าจ้างทำของหรืองานบริการจะหัก 3%, ค่าขนส่งหัก 1%, ค่าประกันภัยหัก 1%, ค่าโฆษณาหัก 2%, ค่านายหน้าหัก 3%, ค่ารางวัล การแข่งขัน ชิงโชคหัก 5%, ค่านักแสดงสาธารณะหัก 5% และค่าเช่าหัก 5%
นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด กล่าวว่า การเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายควรจะเหลืออัตราเดียว โดยอัตรา 2% ก็ถือว่าเป็นอัตราที่ยอมรับได้ เพราะยังไงผู้ประกอบการก็ควรมีการ เสียภาษีบ้าง ส่วน กรณีกรมสรรพากรบอกว่า ถ้าจะให้เก็บหัก ณ ที่จ่ายอัตราเดียวจะขอเก็บธุรกรรมการซื้อขายด้วยนั้น ตนมองว่า ถ้าเก็บหมดจะเกิดความยุ่งยากมาก แต่หากเป็นกรณีซื้อขายที่มีมูลค่าเกิน 1-10 ล้านบาทขึ้นไปก็เห็นด้วย
"สมัยก่อนกรมสรรพากรเคยเสนอมาที่ 5 แสนบาทขึ้นไป ผมค้านเลย เพราะแบบนี้กินข้าวก็ต้องเอานักบัญชีไปด้วย เพื่อคิดหัก ณ ที่จ่าย แบบนี้ก็ตายสิ" นายกิติพงศ์กล่าว
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ