ส.อ.ท. เข็นสารพัดมาตรการ ดันกำลังการผลิตปีหน้าแตะ 80% รับเศรษฐกิจขยายตัวในอนาคต จากปีนี้ต่ำต้อยแค่ 60 % แนะอุตสาหกรรม ดึงวสท.ช่วยออกใบรง.4
ส.อ.ท. เข็นสารพัดมาตรการ ดันกำลังการผลิตปีหน้าแตะ 80% รับเศรษฐกิจขยายตัวในอนาคต จากปีนี้ต่ำต้อยแค่ 60 % แนะอุตสาหกรรม ดึงวสท.ช่วยออกใบรง.4
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะทำงานร่วม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมระหว่าง กระทรวงอุตสาหกรรม และส.อ.ท. เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ครั้งที่ 2 ว่า ส.อ.ท.ตั้งเป้าหมายเพิ่มอัตรากำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมเป็น 80-85% ในปี 58 จากปัจจุบันที่ 60% เนื่องจากต้องการกระตุ้นกำลังการผลิต เพื่อ
รองรับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้นในปีหน้าโดยกำหนดแนวทางการดำเนินงาน เช่น เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในทุกระดับ,การจัดระบบที่ปรึกษาโครงการ ผลักดันโครงการพี่ช่วยน้อง(รายใหญ่ช่วยรายเล็ก)
นอกจากนี้ จะขยายโอกาสทางการตลาดโดยส่งเสริมการค้าชายแดน– นิคมอุตสาหกรรมชายแดน เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) พร้อมทั้งหาตลาดใหม่ ๆ และจัดให้จับคู่ธุรกิจ รวมทั้งส่งเสริมคลัสเตอร์อุตสาหกรรม เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน และรณรงค์ให้ใช้สินค้าที่ผลิตในไทย
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า สอท.ได้เสนอเรื่องการเตรียมความพร้อมด้านมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อรองรับการเข้าสู่เออีซี และการแก้ปัญหาภาวะวิกฤติน้ำของภาคอุตสาหกรรม โดยกระทรวงอุต ฯได้ให้คณะทำงานทุกฝ่าย ที่มีการจัดตั้งนำไปศึกษา เพื่อหาข้อสรุปก่อนนำกลับมาเสนอที่ประชุมครั้งถัดในเดือนหน้า
ด้านนายเจน นำชัยศิริ รองประธานส.อ.ท. และประธานคณะทำงานร่วมปรับปรุงการออกใบอนุญาตต่าง ๆ ของกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่าส.อ.ท.ได้เสนอแนวทางยกระดับมาตรฐานการขอใบอนุญาตการประกอบกิจการโรงงาน ( รง.4) โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยวิชาการเช่น สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ทำหน้าที่เป็นบุคคลที่3 (เติร์ดปาร์ตี้ )ออกแบบ และพัฒนาระบบบำบัดมลพิษ พร้อมให้การรับรอง เพื่อยกระดับ และพัฒนามาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมของประเทศ
นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช รองประธานส.อ.ท. กล่าวว่า ส.อ.ท. เสนอให้จัดกลุ่มหรือแบ่งเกรดโรงงานอุตสาหกรรม หากโรงงานอยู่ในกลุ่มเกรดดี ให้ใช้นโยบายส่งเสริมการพัฒนา หรือใช้มาตรการจูงใจเช่น การต่อใบอนุญาตอัตโนมัติ โดยไม่ต้องตรวจโรงงาน แต่หากอยู่ในกลุ่มเกรดที่ไม่ดี ให้ใช้นโยบายลงโทษทางสังคมหรือการทำบัญชีดำ (แบล็คลิสต์) รวมทั้งมาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด
ส่วนนายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้การทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงอุตฯ และส.อ.ท. อยู่ในระยะแรกของการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ทั้งการแก้ไขระยะเวลาออกใบอนุญาต ซึ่งระยะสั้นจะเป็นบวกต่อเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่น ขณะที่ระยะยาว การทำงานร่วมกัน จะกำหนดการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมต่อไป
ที่มา : เดลินิวส์