​กสอ.จับสถาบันสิ่งทอฯพัฒนาผ้าเครื่องแต่งกาย OTOP

นางศิริรัตน์ จิตต์เสรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่ 1 จาก 5




        นางศิริรัตน์ จิตต์เสรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่ 1 จาก 5 กลุ่มกลุ่มสินค้าโอทอปของไทย ซึ่งมีจำนวนกว่า 17,000 ผลิตภัณฑ์ จากจำนวนผู้ประกอบการกว่า 10,000 ราย  แต่มีเพียง 297 ราย หรือเพียง ร้อยละ 3 ที่จัดอยู่ ในระดับเอ ซึ่งเป็นระดับดาวเด่น ที่สามารถส่งออกในระดับต่างประเทศได้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อให้โอทอปไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ รวมถึงสามารถรองรับการแข่งขันเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ผู้ประกอบการวิสาหกิจกิจชุมชนในหลายด้าน ต้องพัฒนาและมีความรู้ความเข้าใจด้าน “มาตรฐาน” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างอำนาจการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการได้  

    ทั้งนี้ กรมฯได้จับมือสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ  จัดทำ  โครงการ “พัฒนามาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์ผ้าและเครื่องแต่งกายโอทอป ตลอดกระบวนการผลิต และทดสอบตลาดจากการพัฒนา” ได้ตั้งเป้าหมายถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าและเครื่องแต่งกายโอทอป 

    เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานให้ผู้ประกอบตระหนักถึงความสำคัญในการควบคุมมาตรฐานผ้าและเครื่องแต่งกาย ผ่านองค์ความรู้ สอดรับมาตรฐานของอุตสาหกรรมสิ่งทอทั่วโลก อาทิ การคงทนของสีต่อการซัก /การขัดถู /สารฟอกขาว /การเปลี่ยนแปลงขนาดหลังการซัก /การซักแห้ง /ความแข็งแรงต่อแรงดึงขาด/ แรงฉีกขาด/ การติดไฟ การเปลี่ยนแปลงขนาด ฯลฯ ตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงาน 

    องค์กรหลักที่ได้รับการยอมรับในการให้มาตรฐาน ได้แก่  ISO ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ AATCC และ ASTM ของประเทศอเมริกา JIS ของประเทศญี่ปุ่น และ TIS หรือ มอก. มผช. ของประเทศไทย อย่างไรก็ตามปัจจุบัน มีผู้ประกอบการ เพียง ร้อยละ 8 จากจำนวนผู้ประกอบการกว่า 10,000 ราย  ที่สามารถส่งออกในระดับต่างประเทศได้  

    ทั้งนี้ ในสามปี ข้างหน้า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติยังได้เสนอเป้าหมายในการพัฒนา อุตสาหกรรมโอทอปในภาพรวม อาทิ การเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่อายุน้อย สร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชนเพิ่มขึ้นจากเดิม 80,000 ล้านบาท เป็น 1 แสนล้านบาท เพิ่มจำนวนสมาชิกเครือข่ายในชุมชน ขึ้นร้อยละ 5 ต่อปี เพิ่มสัดส่วนมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์โอทอปเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 9 เป็นร้อยละ 12   รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ (Creative Industry)  

    สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ของ กสอ. สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่หก กรุงเทพฯ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2202-4559 หรือเข้าไปที่ http://www.dip.go.th  และสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซ.ตรีมิตร ถ.พระรามที่สี่ กรุงเทพฯ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2713-5492-9 หรือเข้าไปที่ http://www.thaitextile.org

NEWS & TRENDS