​บีโอไอจัดทริปพานักธุรกิจไทยดูลู่ทางกัมพูชา-เวียดนาม

บีโอไอ เดินหน้าส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ จัดทริปพิเศษนำคณะนักธุรกิจไทย ร่วมศึกษาเส้นทางสายเศรษฐกิจ และลู่ทางการลงทุน ในประเทศกัมพูชา-เวียดนาม หวังผลักดัน นักธุรกิจ ขยายฐานการลงทุนในอุตสาหกรรมเกษตร และเกษตรแปรรูป เปิดโอกาสพัฒนาขีดความสามารถแข่งขันไทยในเวทีอาเซียน นางศิริพ..



    บีโอไอ เดินหน้าส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ จัดทริปพิเศษนำคณะนักธุรกิจไทย ร่วมศึกษาเส้นทางสายเศรษฐกิจ และลู่ทางการลงทุน ในประเทศกัมพูชา-เวียดนาม  หวังผลักดัน นักธุรกิจ ขยายฐานการลงทุนในอุตสาหกรรมเกษตร และเกษตรแปรรูป  เปิดโอกาสพัฒนาขีดความสามารถแข่งขันไทยในเวทีอาเซียน   

    นางศิริพร นุรักษ์ ผู้อำนวยการระดับสูง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)  เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 20-24 กันยายน 2557 บีโอไอจะจัดกิจกรรมนำนักธุรกิจไทยเดินทางไปประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนามตอนใต้ เพื่อศึกษาโอกาสและลู่ทางการลงทุนโดยเฉพาะสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป และเครื่องจักรกลทางการเกษตร  ซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีศักยภาพและมีความพร้อมรองรับการลงทุนจากในสองสาขานี้เป็นอย่างมาก
    
    ทั้งนี้ รูปแบบของกิจกรรม จะเน้นการเดินทางโดยรถยนต์ จากด่านอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ผ่านไปยังเส้นทางเศรษฐกิจของกัมพูชา เชื่อมต่อไปยังเวียดนามตอนใต้ ซึ่งบีโอไอจะจัดให้ข้อมูลด้านการลงทุนที่น่าสนใจเพื่อให้นักธุรกิจสามารถศึกษาโอกาสและศักยภาพของการลงทุนในแต่ละพื้นที่ที่มีความสำคัญ  อาทิ กิจกรรมนักธุรกิจไทย พบปะหารือกับนักธุรกิจและหอการค้าจังหวัดพระตะบอง และ จังหวัดกัมปงจาม  ร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการลงทุนของนักธุรกิจไทยที่ได้เข้าไปลงทุนในกรุงพนมเปญ   

    นอกจากนี้ นักธุรกิจไทยจะได้เข้าพบกงสุลใหญ่และฑูตพาณิชย์ประจำกรุงโฮจิมินห์ รวมถึงพบหารือกับนักธุรกิจ และเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมโฮจิมินห์  เยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรม Cambodia Manhattan Special Economic Zone ในจังหวัดสวายเรียง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายแดนระหว่างกัมพูชาและเวียดนาม โดยนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว มีความทันสมัย และโดดเด่นในด้านการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ เกษตรแปรรูป ปัจจุบันได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศเข้าไปลงทุนในพื้นที่จำนวนมาก  

    “กิจกรรมครั้งนี้นับเป็นโครงการศึกษาเมืองอุตสาหกรรมด้านการเกษตรที่สำคัญ ดังนั้นนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและเครื่องจักรกลทางการเกษตร จึงจะได้ประโยชน์จากการร่วมเดินทางในครั้งนี้มาก เนื่องจากสามารถเยี่ยมชม และศึกษาตลาดของพื้นที่ที่จะผ่านได้โดยตรง  ทั้งการเยี่ยมชมศักยภาพของจังหวัดพระตะบอง ซึ่งถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ เพราะเป็นแหล่งปลูกข้าวอันดับหนึ่งของกัมพูชา จังหวัดกัมปงจาม ที่ได้ชื่อว่ามีศักภาพในด้านการเป็นเมืองเพาะปลูกทั้งยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง และมันสำปะหลังสำคัญของกัมพูชา    ขณะเดียวกันการเข้าเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดสวายเรียง ซึ่งเชื่อมต่อไปยังเวียดนาม นักธุรกิจจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการขยายธุรกิจ หรือเข้าไปตั้งฐานการผลิตในพื้นที่ที่มีศักยภาพที่จะขยายตลาดการผลิตสินค้าในอาเซียนและเวทีที่ใหญ่ขึ้นต่อไป” นางศิริพร กล่าว
    
    นางศิริพร กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้เปิดกว้างให้นักธุรกิจที่สนใจเข้าร่วมเพื่อศึกษาโอกาสและลู่ทางทางการค้าและการลงทุนในอนาคต  ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มนักธุรกิจในกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในด้านการเกษตร เกษตรแปรรูป และเครื่องจักรกลทางการเกษตร แสดงความสนใจร่วมเดินทางจำนวนมาก อย่างไรก็ตามผู้ที่ต้องการสอบถามรายละเอียดของการจัดกิจกรรมเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่กองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ  โทรศัพท์ 0-2553-8139 หรือ 0-2553-8233 ภายในวันที่ 15 กันยายน 2557

ที่มา : www.thanonline.com

NEWS & TRENDS