กสอ.ลงนามร่วม 10 จังหวัดในญี่ปุ่นขนเอสเอ็มอี แห่ลงทุนไทย เน้นอุตฯเทคโนโลยีสูง ทั้งยานยนต์ อากาศยาน เครื่องมือแพทย์ ชี้มองไทยเป็นศูนย์กลางน่าเทเงินลงทุนที่สุดในอาเซียน วอนขอไทยดูแลไม่ให้น้ำท่วมซ้ำรอยปี54
กสอ.ลงนามร่วม 10 จังหวัดในญี่ปุ่นขนเอสเอ็มอี แห่ลงทุนไทย เน้นอุตฯเทคโนโลยีสูง ทั้งยานยนต์ อากาศยาน เครื่องมือแพทย์ ชี้มองไทยเป็นศูนย์กลางน่าเทเงินลงทุนที่สุดในอาเซียน วอนขอไทยดูแลไม่ให้น้ำท่วมซ้ำรอยปี54
นางอรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยภายหลังลงนามบันทึกความร่วมมือ ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม ให้เกิดความร่วมมือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ระหว่างกระทรวงอุตฯ ประเทศไทย และจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่นว่า จังหวัดไอจิ เป็นจังหวัดที่ 6 ของประเทศญี่ปุ่น ที่ร่วมลงนามความร่วมมือ พัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ระหว่างกระทรวงอุตฯ และจังหวัดในประเทศญี่ปุ่น โดยภายในสิ้นปีนี้จะมีอีก 4 จังหวัดที่ร่วมลงนาม เช่น จังหวัดคาวาซากิ , ฟุกุโอกะ , มินะมิโบโซ รวมเป็น 10 จังหวัด ซึ่งญี่ปุ่น ถือเป็นประเทศที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในไทย เป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะอุตฯชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วน , เครื่องจักรอุตสาหกรรม , ชิ้นส่วนอากาศยาน , เครื่องมือแพทย์
นายฮิเดอากิ โอมุระ ผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ได้สอบถามนักลงทุนในจังหวัดไอจิ พบว่า มีความต้องการเข้ามาลงทุนในไทย เป็นอันดับที่ 1 ในอาเซียน แม้บางส่วนจะไปลงทุนในอินโดนีเซีย และมาเลเซีย เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของอาเซียน โดยขณะนี้มีนักลงทุนจากจังหวัดไอจิ เข้ามาลงทุนในไทยมากกว่า 284 บริษัท มี 416 โรงงาน เป็นลงทุนขนาดใหญ่ ในอุตฯ ชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอากาศยาน และเครื่องมือแพทย์ เช่น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์
อย่างไรก็ตามต้องการให้รัฐบาลไทยสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าลงทุน เช่น ต้องการให้ไทย ดูแลระบบสาณูปโภค รวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน และที่สำคัญไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำรอยปี 54 อีก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น นักลงทุนจากไอจิ ได้รับผลกระทบด้วย ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองไทย ในช่วงที่ผ่านมาประเทศญี่ปุ่นมีความเป็นห่วง แต่ขณะนี้ทราบว่า สถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว และทางประเทศญี่ปุ่นมีความหวังว่า จะได้รับการรับรองรัฐบาลไทยในเร็วๆนี้ หลังจากเดือนก.ย. ทางผู้นำประเทศอินโดนีเซีย จะเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ
“ จังหวัดไอจิ ถือเป็นจังหวัดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น โดยการลงนามเอ็มโอยูครั้งนี้ หวังว่า จะช่วยให้เอสเอ็มอีไทย และเอสเอ็มอีในจังหวัดไอจิ ร่วมมือกันได้มากขึ้น เพราะไทยนอกจากเป็นแหล่งลงทุนแล้ว ยังเป็นประเทศที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ต่อหัวของประชากรกำลังเพิ่ม ส่งผลให้ตลาดบริโภคในประเทศเติบโต ไทยจึงได้รับการคาดหวังจากนานาประเทศ”
ที่มา : เดลินิวส์