"พาณิชย์" ชง 5 กลยุทธ์ค้าชายแดนเสนอ "ฉัตรชัย" รับลูก คสช. ดัน 5 ด่านชายแดนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ปี"58 ตั้งเป้าเพิ่มยอดส่งออกปีนี้ 10% แนะโอกาสลงทุนเรือขนส่ง-ห้องเย็น
"พาณิชย์" ชง 5 กลยุทธ์ค้าชายแดนเสนอ "ฉัตรชัย" รับลูก คสช. ดัน 5 ด่านชายแดนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ปี"58 ตั้งเป้าเพิ่มยอดส่งออกปีนี้ 10% แนะโอกาสลงทุนเรือขนส่ง-ห้องเย็น
นายฑิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวภายหลังการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "การค้าชายแดนเพื่อรองรับการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ" ว่า กรมเตรียมผลักดัน 5 ด่านชายแดน ตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษให้ได้ภายในปี 2558 เพื่อให้เป็นไปตามแนวนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการผลักดันการค้าตามแนวชายแดนให้มีการเติบโต ซึ่งล่าสุดได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมา 3 ชุด ได้แก่ คณะทำงานชุดโครงสร้าง คณะทำงานชุดอำนวยความสะดวก และคณะทำงานชุดสิทธิประโยชน์ ตั้งขึ้นเพื่อมาดูแล แก้ไขปัญหา อุปสรรคการค้าตามชายแดน ทั้งนี้เชื่อว่าหากสามารถดำเนินการได้ประสบผลสำเร็จ จะทำให้การค้าชายแดนปี 2558 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2557 ที่คาดว่าจะมีมูลค่าการค้า1.05 ล้านล้านบาท
ในส่วนกรมได้จัดทำร่างยุทธศาสตร์ค้าชายแดนภายใต้ 1 ยุทธศาสตร์ 5 กลยุทธ์ เสนอต่อ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิจารณา โดย 5 กลยุทธ์ประกอบด้วย 1.การพัฒนาด้านการค้าชายแดน เน้นขยายระยะเวลาเปิดให้นานขึ้น และยกระดับจากจุดผ่อนปรนเป็นด่านถาวร 2.การส่งเสริมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมนำคณะผู้แทนการค้า ไปขยายความสัมพันธ์ทางธุรกิจ 3.การพัฒนาโลจิสติกส์ ศุลกากร และด่านตรวจคนเข้าเมือง พยายามพัฒนาให้เป็นในรูปแบบ One Stop Service ครอบคลุมทุกด่าน 4.พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ เน้นให้เรียนรู้มาตรการนำเข้าสินค้าของแต่ละประเทศมากขึ้น และ 5.การพัฒนาด้านกฎระเบียบ และอุปสรรคทางการค้าต่าง ๆ
"5 ด่านที่ผลักดันให้เป็นการเขตเศรษฐกิจพิเศษในปี 2558 ได้แก่ ด่านแม่สอด จ.ตาก ด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ด่านคลองใหญ่ จ.ตราด ด่านสะเดา จ.สงขลา และด่านจ.มุกดาหาร มีงบประมาณภาพรวมที่จะส่งเสริมด่านชายแดนคาดว่าประมาณกว่า 10,000 ล้านบาทต่อด่านชายแดน"
สำหรับการค้าชายแดนในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.) ปี 2557 มีมูลค่า 561,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% โดยฝ่ายไทยส่งออกกว่า 340,000 ล้านบาท นำเข้ามูลค่า 200,000 ล้านบาท ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า
ปัญหาการค้าชายแดนที่ต้องแก้ไขและส่งเสริม ให้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ด่านชายแดนของไทยยังเป็นลักษณะความแออัดของพื้นที่หรือคอขวด ส่งผลให้การขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างล่าช้าในหลายด่าน เช่น ด่านแม่สอด ด่านอรัญประเทศ จึงควรขยายพื้นที่ให้รถวิ่งกว้างขึ้นเป็น 2.5-5 กิโลเมตร พร้อมทั้งเร่งหามาตรการแก้ไขการขนส่งสินค้าไทย-จีนให้เกิดความสะดวก โดยการเร่งแก้ไขปัญหาติดขัดในด่านชายแดนระหว่างลาว-จีน ซึ่งมักเกิดปัญหาการโจรกรรม ส่งผลให้การขนส่งสินค้ามีความเสี่ยง และเกิดปัญหาล่าช้า
"เรือของบริษัทจีนที่มีความจุ 1,000 ตัน ไม่กล้ามารับสินค้าที่ท่าเรือเชียงแสน ทำให้ส่วนใหญ่ 70% เป็นเรือของบริษัทลาวที่รับความจุได้เพียง 300 ตัน อย่างไรก็ตาม
อีกด้านหนึ่งยังมองว่าเป็นโอกาสที่จะลงทุนจดทะเบียนตั้งธุรกิจเรือขนส่ง และธุรกิจห้องแช่เย็นได้" นายฑิฆัมพรกล่าว
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ