กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยแผนขับเคลื่อนการค้าปี 58 ถึงภารกิจสำคัญการลดอุปสรรค สร้างความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการ พร้อมเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ธุรกิจบริการ ท่องเที่ยว และลงทุน โดยมีการประชุมแผนกระตุ้นส่งออก 3 เดือนส่งท้ายปี ก่อนสรุปแผน-กลยุทธ์ผลักดันรายภูมิภาคปี 2558
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยแผนขับเคลื่อนการค้าปี 58 ถึงภารกิจสำคัญการลดอุปสรรค สร้างความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการ พร้อมเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ธุรกิจบริการ ท่องเที่ยว และลงทุน โดยมีการประชุมแผนกระตุ้นส่งออก 3 เดือนส่งท้ายปี ก่อนสรุปแผน-กลยุทธ์ผลักดันรายภูมิภาคปี 2558
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ภารกิจสำคัญเร่งด่วน คือ การขับเคลื่อนการส่งออกและพัฒนาการค้าสู่อาเซียน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการและวิสาหกิจ ส่วนภารกิจรองเพื่อการวางรากฐาน คือ การส่งเสริมความเป็นอยู่ของเกษตรกร และยกระดับสินค้าเกษตรกรรม รวมถึงการบูรณาการเพื่อพัฒนาวางรากฐานระบบการขนส่งโลจิสติกส์
สำหรับการขับเคลื่อนการส่งออก จะเน้นการลดอุปสรรคการส่งออกเพื่อให้มีความคล่องตัวและสะดวกรวดเร็ว ลดค่าใช้จ่ายการส่งออก ยุทธศาสตร์การส่งออกของประเทศ จะต้องเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ธุรกิจบริการ การท่องเที่ยวและการลงทุน ส่งเสริมการออกแบบให้ทันสมัยสอดคล้องกับความต้องการของตลาดเป้าหมาย การแสวงหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป การขยายการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน การกระขับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
"การตั้งเป้าหมายการส่งออกให้สูงเพื่อสร้างความท้าทายการทำงาน การเจรจาการค้าระหว่างประเทศต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและหารือระดับผู้บริหารก่อนทุกครั้ง และไทยต้องกลับมามีบทบาทนำในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศทั้งระดับทวิภาคี ภูมิภาค และพหุภาคี"
นางนันทวัลย์กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาการค้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะใช้โอกาสนี้ให้ครอบคลุมทั้งการค้าการลงทุน ขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจทุกด้าน เพิ่มประสิทธิภาพผู้ประกอบการ ลดอุปสรรคด้านกฎระเบียบ ให้ความสำคัญด้านยุทธศาสตร์การใช้อาเซียนเป็นฐานสู่เวทีภูมิภาคและเวทีโลก นอกจากนี้ ต้องเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ผู้ประกอบการและวิสาหกิจมีตราสินค้าของตนเอง สนับสนุนการจดทะเบียนตราสินค้า ผลักดันตราสินค้าไทยให้พัฒนาด้านการออกแบบ ลดจุดอ่อนของผู้ประกอบการ
สำหรับยุทธศาสตร์การวางรากฐานเศรษฐกิจการค้าของประเทศสู่อนาคตนั้น ต้องบูรณาการเพื่อพัฒนาการวางรากฐานระบบโลจิสติกส์ ซึ่งถือเป็นต้นทุนสินค้าสำคัญ โดยขอเข้าไปมีส่วนร่วมกับหน่วยงานเจ้าภาพด้านโลจิสติกส์อื่น ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต การบรรจุภัณฑ์และคลังสินค้า เชื่อมโยงไปถึงการขนส่งสินค้าเข้าสู่ตลาดถึงผู้บริโภค รวมถึงการขยายเขตเศรษฐกิจชายแดน นอกจากนี้ การพัฒนาสินค้าภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น โดยบูรณาการกับหน่วยงานอื่น เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์แห่งชาติในการพัฒนากลุ่มสินค้าเป้าหมาย เน้นการยกระดับการพัฒนาสินค้าและบริการของไทยให้มีมูลค่าเพิ่มสูงตามห่วงโซ่มูลค่า เป็นต้น
ด้านการวางเป้าหมายตลาดส่งออก จะเชิญทูตพาณิชย์ที่ประจำในสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) 66 แห่งทั่วโลกมาประชุม เพื่อรับทราบนโยบายการค้า เสนอแผนงานและเป้าหมายผลักกันการส่งออกของแต่ละภูมิภาคสำคัญ อาทิ อเมริกา ยุโรป แอฟริกา พร้อมสัมมนาร่วมกับภาคเอกชนระหว่างวันที่ 18-21 ตุลาคมนี้ เพื่อร่วมกันระดมสมองถึงสถานการณ์ แนวโน้ม ปัจจัยที่มีผลต่อการค้าการส่งออก โดยเฉพาะปัจจัยจากต่างประเทศเกิดขึ้นหลายประเด็นและไม่สามารถควบคุมได้ รวมถึงมาตรการเร่งรัดผลักดันการส่งออกรายภูมิภาคในช่วงไตรมาสสุดท้าย (ต.ค.-ธ.ค.57)
เรียงเรียงจาก สำนักข่าวไทย
ที่มา : www.prachachat.net