ดัชนีเชื่อมั่นนักธุรกิจชี้เชื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวแต่ช้ากว่าที่คาด

ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจกรุงไทยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน หลังสถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้นต่อเนื่อง เศรษฐกิจต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว และตลาดหุ้นมีแนวโน้มขาขึ้น แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ช้ากว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นปรับขึ้นไม่มาก ส่วนการขยายตัวของการค้าชายแดน ช่..



    ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจกรุงไทยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน หลังสถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้นต่อเนื่อง  เศรษฐกิจต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว และตลาดหุ้นมีแนวโน้มขาขึ้น แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ช้ากว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นปรับขึ้นไม่มาก ส่วนการขยายตัวของการค้าชายแดน  ช่วยให้เศรษฐกิจในภูมิภาคมีแนวโน้มเติบโตดี

    นายพูลพัฒน์ ศรีเปล่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบริหารความเสี่ยง ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยความเสี่ยงธุรกิจได้จัดทำดัชนีธุรกิจกรุงไทย (Krung Thai Business Index: KTBI) ประจำไตรมาสที่ 3/2557 ซึ่งสำรวจจากนักธุรกิจกว่า 2,600 รายทั่วประเทศ พบว่าดัชนี KTBI ทรงตัวอยู่เหนือระดับปกติติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ที่ระดับ 51.50 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 51.03 ในไตรมาสก่อน โดยได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ดีขึ้นต่อเนื่อง การจัดตั้ง สนช. และรัฐบาลเป็นไปตาม Roadmap ของคสช.  ขณะที่เศรษฐกิจต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว  รวมทั้ง SET Index ขยับสูงขึ้นแตะ 1,600 จุดในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตปรับลดลงมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับความเชื่อมั่นปัจจุบัน  ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นยังมีความเปราะบาง  เนื่องจากนักธุรกิจยังกังวลว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 อาจขยายตัวไม่เท่ากับที่คาดการณ์ไว้ และธุรกิจในภาคบริการได้รับผลกระทบ จากการชะลอตัวของการท่องเที่ยว    แต่การที่ภาครัฐเดินหน้าลงทุนโครงการคมนาคมและ โลจิสติกส์ รวมทั้งการขยายตัวของการค้าชายแดน  ช่วยให้เศรษฐกิจในภูมิภาคมีแนวโน้มเติบโตดี  ความเชื่อมั่นของนักธุรกิจในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพฯและปริมณฑลจึงปรับตัวสูงขึ้น

    นายพูลพัฒน์ ศรีเปล่ง กล่าวเสริมว่า จากการสำรวจความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันในระยะ 1 ปี ข้างหน้า พบว่านักธุรกิจส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเสถียรภาพทางการเมืองมากที่สุด คิดเป็น 33.3% รองลงมา คือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 14.5%  ตามด้วยอัตราดอกเบี้ย และ ราคาสินค้าเกษตร คิดเป็น 12.1% และ 2.7% ตามลำดับ

NEWS & TRENDS