มหาลัยหอการค้าไทยเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค. 57 พบชาวบ้านพอใจภาวะค่าครองชีพมากที่สุดในรอบ 101 เดือนหลังรับอานิสงส์น้ำมัน-สินค้าลดราคา
มหาลัยหอการค้าไทยเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค. 57 พบชาวบ้านพอใจภาวะค่าครองชีพมากที่สุดในรอบ 101 เดือนหลังรับอานิสงส์น้ำมัน-สินค้าลดราคา
นายธนวรรธน์ พลวิชัยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะค่าครองชีพไทยในเดือน ต.ค. 57 อยู่ระดับ 67.3 เป็นตัวเลขที่ดีที่สุดในรอบ101 เดือน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ประชาชนมีความรู้สึกว่ารับได้กับภาวะค่าครองชีพได้มากที่สุดเท่านับตั้งแต่การสำรวจในเดือนพ.ค. 49 ทั้งในส่วนของรายจ่ายในการซื้อสินค้าที่คุ้มค่า โดยเฉพาะราคาน้ำมันขายปลีกและราคาผักผลไม้ ที่ปรับลดลงอย่างมาก รวมถึงผู้ประกอบการต้องตรึงราคาสินค้าเพื่อแข่งขันในการแย่งผู้บริโภคเป็นต้น
“หากค่าครองชีพจะเข้าสู่ภาวะปกติตัวเลขดัชนีจะต้องอยู่ในระดับ100 ซึ่งเดือน ต.ค. 57 เป็นตัวเลขที่ดีที่สุดคือ 67.3ซึ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่มีการสำรวจมาก เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่ประชาชนรับได้มากที่สุดโดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่มอเตอร์ไซต์และรถยนต์กลุ่มนี้จะได้รับอานิสงส์เต็มๆจากเดิมที่เคยเติมลิตรละประมาณเกือบ40 บาทตอนนี้เหลือลิตร 33-35 บาท”
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค. 57 อยู่ที่ 80.1 เพิ่มจาก79.2 ในเดือน ก.ย. 57 และความเชื่อมั่นในอนาคตอยู่ในระดับ87.2 เพิ่มจากเดือนก่อนที่อยู่ในระดับ85.8 โดยมีปัจจัยบวกที่ส่งให้ให้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4 วงเงิน 360,000 ล้านบาทเป็นงบช่วยเหลือชาวนา 40,000 ล้านบาท และงบลงทุนต่างๆ 320,000 ล้านบาท สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 58 จะเติบโตได้ 4.1%จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมระดับราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ขายปลีกในประเทศลดลงประมาณลิตรละ2 บาท ดีเซลลดลง 0.60 บาท และการส่งออกเดือน ก.ย.ปรับเพิ่มขึ้น 3.2%
“เป็นที่น่าสังเกตุว่าประชาชนส่วนใหญ่จะมีความเชื่อมั่นในอนาคตมากขึ้นหรือมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะดี ค่าครองชีพจะถูกลงและการหางานทำจะง่ายขึ้นรวมถึงดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจ, การลงทุน, การใช้จ่ายอื่นและดัชนีความสุขเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยปัจจัยที่เป็นผลบวกคือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกรและการลงทุนโครงการต่างๆ ดังนั้นในช่วงที่เศรษฐกิจทรงตัว รัฐบาลควรเร่งอัดฉีดงบประมาณซ่อม สร้างโดยเร็วในเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยศูนย์ฯ ประมาณการณ์เศรษฐกิจปีนี้ไว้ที่1.3-1.5%ส่วนปี 58 คาดว่าจะโตได้ 4-5%”
ที่มา : www.daliynews.co.th